ทำเอาแฟนๆ หลายคนแอบเสียดายหนักมาก สำหรับ “เข้ม หัสวีร์” พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ที่ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการดังว่าไม่ต่อสัญญาต้นสังกัดเดิมและออกมาดูแลตัวเองเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้ว
ล่าสุดในงานเปิดตัวละครเรื่อง ฟ้าพยับ ของทางช่อง 7 เข้ม หัสวีร์ ได้มาร่วมงานในฐานะนักแสดงพร้อมทั้งเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า “เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้วมีเวลามากขึ้น มีเวลาวางแผนชีวิตของตัวเองมากขึ้น มองหาอนาคตของตัวเอง ได้เรียบเรียงตัวเองได้มากขึ้นในการใช้ชีวิต แล้วก็วางแผนว่าอยากจะทำอะไรได้มากขึ้น ช่วงจังหวะเวลามันจะมีมากขึ้นด้วยธรรมชาติ ยังมีละครอีกหนึ่งเรื่องครับ ถึงบอกว่าเราไม่ได้ออกด้วยการทะเลาะกัน ที่นี่ก็ยังคงเป็นบ้านหลังหนึ่งที่สร้างผมขึ้นมาให้โอกาสผมมาดีมากๆ เราก็ยังมาทำงานร่วมงานได้ตลอดเวลา (ถึงแม้จะหมดสัญญายังมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน?) ครับ คือจริงๆ เข้มกลัวการที่ออกมาแล้วเป็นการทะเลาะกัน ออกมาแล้วมันมีชื่อที่อยู่ในรูปแบบของความอกตัญญู เราก็พยายามปรึกษาคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน ทุกค่าย ทั้งผู้ใหญ่ที่ช่องเอง ปรึกษาจนได้คำตอบเดียวกันว่าถ้าเกิดผมออกมาประมาณนี้เป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์มันก็เป็นแบบเดิม”
“ข่าวก่อนหน้านี้ที่ออกมาช่วงแรกมันก็เครียดแหละ เครียดในรูปแบบที่มีการพาดพิงถึงครอบครัว บางคนเขาไม่ได้อยู่ในห้องประชุมที่เราพูดคุยกันกับผู้ใหญ่ เขาก็จะแปลสารบางอย่างที่มันผิดเพี้ยนไปได้เยอะ ก็มีเครียดในเรื่องนั้นอยู่ครับ แต่พอเราได้พูดคุยได้อธิบายบางสิ่งบางอย่างที่เราสามารถพูดคุยได้ เราก็สบายใจขึ้นในรูปแบบที่ทุกคนน่าจะเข้าใจนะ”

เข้ม เผยต่อว่า “หลังจากที่ได้พูดไปแล้วก็ได้กลับไปอ่านคอมเมนต์บ้างครับ บางมุมเขาก็เห็นด้วย บางมุมก็ยังรู้สึกเสียดาย แต่ก็จะบอกว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะ เราก็ยังคงมาร่วมงานมาทำงาน ทุกปีใหม่เราก็ยังคงเข้ามาหาผู้ใหญ่ที่เราสนิท เพราะเราก็ค่อนข้างจะสนิทกับที่นี่ ในการออกไปเริ่มต้นทำงานใหม่ เราก็ค่อนข้างตื่นเต้นก็มีความกังวลของตัวเองอยู่เพราะเราไม่คุ้นชิน ที่นี่ก็ยังเป็นที่ที่เรารู้สึกปลอดภัย คุ้นชินกับที่นี่มากๆ ตอนนี้มีเรื่อง ฟ้าพยับ และจะมีเหลืออีกเรื่อง เมืองแก้ว ที่เราต้องมาทำงานได้เหมือนเดิม แล้วก็ทุกงานที่กำลังจะเข้ามา เราก็ต้องดูแหละว่าเราอยากทำมันจริงมั้ย เพราะว่าช่วงที่เราอยู่เราก็ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่ดูความเหมาะสมให้ แต่พอออกไปแล้วเราต้องมาดูเองว่าความเหมาะสมที่เราอยากจะทำในสิ่งที่เราอยากจะเริ่มต้นในผลงานของตัวเองในการออกไปมันจะเป็นยังไง ก็จะมาพิจารณาด้วยตัวเอง ก็จะยากขึ้นหน่อย ดูทิศทางที่คนไม่เคยเห็นให้มันเปลี่ยนมุมมอง หรือว่าเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของตัวเองไปเลย”


“เข้มถนัดในเรื่องของสายการแสดง ก็คงอยู่ในรูปแบบของภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือว่าอะไรที่ติดต่อเข้ามาในรูปแบบที่เราอยากจะทำ ความรู้สึกที่เรายังไม่เคยสัมผัส การเจรจากันว่าเราสามารถทำอะไรได้เพิ่มเติมมากน้อยแค่ไหน (แพสชั่นแรกถ้าเสนอมาแล้วอยากทำ?) ภาพยนตร์ครับ ได้เล่นแล้ว คือภาพยนตร์กับละครการถ่ายทำมันจะแตกต่างกันมากๆ แล้วพอได้ไปเล่นภาพยนตร์ เรารู้สึกชอบในรูปแบบนี้ การสรุปจบในช่วงเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมง มันเป็นการเล่นแบบเข้าใจอะไรมันต้องกระชับทุกอย่าง ความรู้สึกต้องเรียบเรียงยังไงมันจะแตกต่างจากละครไปเลย เราก็กำลังตื่นเต้นกับภาพยนตร์ จริงๆ มีที่ฉายอยู่ตอนนี้ในโรงภาพยนตร์ Why We Love เป็นเรื่องแรก แล้วก็ของพี่อ๊อฟ จะเป็นอีกฟอร์มหนึ่ง Why We Love เป็นร่วมสมัย ถ้าครุฑานาคี สร้างด้วยความเชื่อเลย ก็จะแตกต่าง คาแรกเตอร์ฉีกออกไปเลย”



ขอบคุณภาพประกอบจาก:hussaweee