แพทย์จากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เปิดเผยถึงกรณีแปลกของคนไข้นิรนามรายหนึ่ง คนไข้คนนี้เป็นชายวัยกลางคน เขาเล่าว่าต้องการฟิตหุ่นเพื่อสุขภาพตามปณิธานที่ตั้งไว้ตอนปีใหม่ แต่เรื่องราวกลับกลายไปในทางตรงข้าม

คนไข้หนุ่มใหญ่เล่าว่า เมื่อเดือนที่แล้ว เขาเริ่มวิดพื้นและกระโดดเชือกเพื่อลดน้ำหนัก แต่ในวันเกิดเหตุ เขาเพิ่งเริ่มออกกำลังกายโดยการวิดพื้น 2 เซ็ต 20 ครั้งและกระโดดเชือก 2-3 นาที เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย เขาจึงเลิกออกกำลังกายและกลับไปทำงานตามปกติ 

เมื่อคนไข้รายนี้ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาเริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงและหายใจลำบาก โดยเฉพาะหลังจากออกแรงเพียงเล็กน้อย เช่น ขึ้นบันได อาการปวดของเริ่มรุนแรงมากขึ้นจนเขาตัดสินใจไปโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคปอดรั่วหรือปอดทะลุ กล่าวคือมีภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด

เห็นได้ชัดว่า ชายคนนี้ออกแรงมากระหว่างที่ทำท่าวิดพื้นและกระโดดเชือก แม้เพียงระยะสั้น ๆ แต่เขาก็ใช้แรงมากจนทำให้เยื่อหุ้มปอดฉีกขาดและมีภาวะลมรั่ว ภาพถ่ายเอกซเรย์ของเขาแสดงให้เห็นว่าปอดข้างหนึ่งได้รับความเสียหายมากจนหดลงเหลือเพียงสามในสี่ของขนาดปกติ 

แพทย์ที่รักษาเขาชี้ว่า หากปล่อยทิ้งไว้ อาการจะแย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุดอาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถรักษาได้ และอาจทำให้คนไข้เสียชีวิต 

ทีมแพทย์ได้เผยแพร่กรณีที่แปลกประหลาดนี้เพื่อเตือนใจว่า เราควร “ฟัง” ร่างกายของตัวเองเสมอและอย่าฝืนตัวเองมากเกินไป เช่นในกรณีนี้ที่แม้ว่าการวิดพื้นสองเซ็ตและกระโดดเชือกสองสามครั้งนั้นจะไม่ใช่การออกกำลังกายที่หนักหน่วง แต่ก็อาจเกิดความผิดปกติขึ้นได้กับร่างกายของเรา

นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้ประสบภาวะปอดทะลุจากการทำกิจกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การร้องคาราโอเกะ, การตะโกนหรือตะเบ็งเสียงระหว่างชมคอนเสิร์ต

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ :  Gordon Cowie on Unsplash