สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่านายมาร์ค รึตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) กล่าวถึง “ดรามา” ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ว่า “เป็นเรื่องโชคร้าย” ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับยูเครนตกต่ำถึงขีดสุด
รึตเตอกล่าวด้วยว่า เซเลนสกี “ต้องหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์” กับทรัมป์และรัฐบาลวอชิงตันชุดนี้ ซึ่งเป็นหนทางสำคัญที่จะทำให้ทุกฝ่ายก้าวต่อไปข้างหน้าได้ พร้อมทั้งเตือนผู้นำยูเครน “ต้องสำนึก” กับสิ่งที่ทรัมป์เคยให้ความช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือการที่รัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เคยอนุมัติจรวดพิฆาตรถถัง “เจฟลิน” ให้ยูเครนใช้รบกับรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส เมื่อปี 2562
⚠️ NATO says Zelenskyy must mend ties with Trump
— Anadolu English (@anadoluagency) March 1, 2025
‘It is important that President Zelenskyy finds a way to restore his relationship with the American President and with the senior American leadership team,’ warns Mark Rutte https://t.co/ZFdQwd2Zv9 pic.twitter.com/wW3Dkhladb
เลขาธิการนาโตกล่าวอีกว่า อาวุธดังกล่าวยังคงมีเพัยงพอใช้งานจนถึงช่วงต้นของสงคราม เมื่อปี 2565 หากไม่มีจรวดเฟลินของสหรัฐ “ยูเครนอาจไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ตอนนี้” และเตือนด้วยว่า “สิ่งที่สหรัฐกำลังทำอยู่ตอนนี้ เป็นเรื่องที่ยูเครนต้องขอบคุณเช่นกัน”
WATCH IN FULL: All 46 minutes of the Oval Office meeting between President Donald J. Trump and President Zelenskyy pic.twitter.com/L88QejnhRA
— Rapid Response 47 (@RapidResponse47) February 28, 2025
ทั้งนี้ รึตเตอปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับบทสนทนาอันดุเดือดระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกี ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวในช่วงหนึ่งว่า “ยูเครนกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่สาม” และ “หากยูเครนไม่ต้องการทำข้อตกลง สหรัฐจะออกไปเอง” โดยกล่าวเพียงว่า ทรัมป์และรัฐบาลสหรัฐต้องการสันติภาพในยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่นาโตต้องการเช่นกัน.
เครดิตภาพ : AFP