สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ว่า นายไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อการสร้างสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย รัฐบาลวอชิงตัน “ต้องการผู้นำยูเครนซึ่งสามารถประสานงานด้วยได้” และท้ายที่สุดแล้ว “ต้องคุยกับรัสเซียได้ เพื่อให้สงครามครั้งนี้ยุติ”
อย่างไรก็ตาม “มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” ว่าจุดยืนของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนคนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดส่วนบุคคล หรือจุดยืนทางการเมือง “ไมได้อยู่บนแนวทางของการยุติสงคราม” ซึ่งสหรัฐมองว่า “เรื่องนี้คือปัญหา”
"It was not clear Zelenskyy was going to go to negotiations at all — that he would ever be able to negotiate with Putin and whether he shared our goal of ending this war," says @MikeWaltz47.
— Rapid Response 47 (@RapidResponse47) March 2, 2025
"This was a huge missed opportunity for him and for his country." pic.twitter.com/BKvGmZTJhq
ขณะที่นางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ (ดีเอ็นไอ) กล่าวว่า เซเลนสกี “สร้างความระหองระแหงครั้งใหญ่” ในความสัมพันธ์กับรัฐบาลวอชิงตัน จากการถกเถียงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ และสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
.@DNIGabbard: "The longer this goes on, not only are more Ukrainians losing their lives, but it increases the potential of this escalation towards World War III … That's not a cost that President Trump is willing to accept." pic.twitter.com/CmvRz8ZrYf
— Rapid Response 47 (@RapidResponse47) March 2, 2025
อีกด้านหนึ่ง ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล ว่าข้อตกลงแบ่งปันแร่ธาตุระหว่างสหรัฐกับยูเครน “คือหลักประกันด้านความมั่นคงในตัวเองอยู่แล้ว” เนื่องจากหากรัสเซียโจมตียูเครนอีก จะเท่ากับเป็นการสร้างอันตรายต่อชีวิตของชาวอเมริกันเช่นกัน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ “ทหารสหรัฐ” ต้องตอบโต้ ถือเป็นการย้ำอย่างมีนัย ว่ารัฐบาลวอชิงตันจะส่งทหารเข้าไปประจำการตามแหล่งแร่ธาตุหายากในยูเครน.
เครดิตภาพ : AFP