สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน แถลงต่อที่ประชุมสภาปนะชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ในกรุงปักกิ่ง ประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ที่ “ประมาณ 5%” เป้าหมายอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% และการสร้างงานใหม่ในเมืองใหญ่อีกราว 12 ล้านอัตรา


ทั้งนี้ จีนจะเน้นกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ ให้เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกล่าวด้วยว่า ภาครัฐต้องเร่งแก้ไขปัญหาความต้องการภายในประเทศ ที่ยังไม่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรยากาศของผู้บริโภคซึ่งยังคงซบเซา

ขณะเดียวกัน หลี่กล่าวว่า จีนจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณขึ้นอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ จาก 3% เป็น 4% เพื่อช่วยให้รัฐบาลปักกิ่งมีความยืดหยุ่นด้านนโยบายมากขึ้น ในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวถึงการเพิ่มงบประมาณกลาโหมอีก 7.2% ในปีนี้ เป็น 1.78 ล้านล้านหยวน (ราว 8.27 ล้าน้ลานบาท) โดยสัดส่วนงบประมาณกลาโหมของจีนเมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นเพียง 1.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งน้อยกว่าสหรัฐและรัสเซียมาก แต่รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหามาตลอด ว่าการใช้จ่ายทางทหารของจีน “สูงกว่านั้นมากในความเป็นจริง”

หลี่เน้นย้ำว่า นโยบายทางทหารและกลาโหมของจีน “มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเองอย่างแท้จริง” พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า รัฐบาลปักกิ่งจะไม่มีทางเพิกเฉยต่อ “ความพยายามแบ่งแยกดินแดน” ของไต้หวัน และ “การแทรกแซงจากภายนอก” ที่จะขัดขวางสันติภาพข้ามช่องแคบและการรวมชาติอย่างสันติ.

เครดิตภาพ : AFP