การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ ยังเถียงจำนวนวันกันไม่ได้ รัฐบาลต้องการให้แค่ 1 วันเพราะฝ่ายค้านยื่นอภิปราย “นายกฯ อิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ถึงแม้จะทำงานมายังไม่ถึง  6 เดือน แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่า ต้องการชี้ให้เห็น “อำนาจเบื้องหลัง” ของนายกฯ จึงขอ 5 วัน จากนี้จะได้กี่วันก็ต้องรอวันประชุมวิป 3 ฝ่ายเคาะ รัฐบาลแย้มว่าอาจให้วันที่ 24 มี.ค. นี้ ซึ่งต้องรอมติจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย (สส.ฝ่ายรัฐบาล–สส.ฝ่ายค้าน–ตัวแทน ครม.)

และที่น่าจับตาคือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่วันนี้สถานะคือพรรคฝ่ายค้านที่น่าสนใจขึ้นมา เพราะ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค ออกมาเปิดเผยว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค จะเป็นผู้อภิปรายด้วย  ต่อจาก “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  

โดย นายไพบูลย์ แจ้งว่า เบื้องต้น “พปชร.” จะอภิปรายใน 4 ประเด็นคือ เรื่องการถือครองสนามกอล์ฟอัลไพน์  เรื่องการทำกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่อง MOU 44 และเรื่อง “อดีตนายกฯ แม้ว” นักโทษเทวดาประจำ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 มั่นใจว่า ข้อมูลที่มีสั่นคลอนรัฐบาลได้ เชื่อว่า “นายกรัฐมนตรี แพทองธาร หวั่นไหวแน่ อาจยุบสภาในเวลาอันใกล้”

เมื่อระดับหัวหน้าพรรค พปชร. “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” จะออกโรงเอง ก็เกิดความคาดหวังขึ้นมาว่า ในวันที่บูรพาพยัคฆ์ซึ่งเป็น “เสือหลับ” มานาน จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ จำเป็นต้องแสดงอำนาจให้อีกฝ่ายยำเกรงให้ได้  นี่คือการประกาศศักดาของ “เสือแก่” ที่ต้องไว้ลายเสือ ง้างเล็บพยัคฆ์กำราบอีกฝ่าย เช่นนั้นแล้ว ก็ยิ่งน่าสนใจว่า เรื่องที่พูด หลักฐานจะ “เด็ด” แค่ไหน

ซึ่งในเรื่อง MOU 44 พรรค พปชร.เคลื่อนไหวมาตลอด รัฐบาลมีท่าทีเหมือน “ไม่อยากให้พูดกันไปมาก” เพราะรับปากจะตั้งกรรมการเจรจานานแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “บิ๊กป้อม” ก็เป็นหัวหน้าคณะเจรจา อาจมีข้อมูลอะไรบางอย่างที่ยังไม่เคยเปิดเผยมากางในสภา เช่น มีผลประโยชน์อะไรที่ปล่อยเรื่องนี้คาราคาซังไว้หรือไม่??

หรือในกรณี “นักโทษเทวดา ชั้น 14”  ก็น่าคิด ว่าเหตุเกิดในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แม้ว่าต้องอภิปรายอยู่ในกรอบว่า กระทรวงยุติธรรมปล่อยให้เจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยอย่างไร แต่จะน่าสนใจทันที ถ้าอภิปรายให้เห็นได้ว่า “มีขบวนการช่วย “อดีตนายกฯแม้ว” จริง  ส่วน “นายกฯ อิ๊งค์” ก็รู้ การไม่ทำอะไรคือผิดจริยธรรม” ซึ่ง “บิ๊กป้อม” อาจทราบตอนเป็นรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่??

นอกจากนี้ “บิ๊กป้อม” อยู่กับสังคมการเมืองมาพอสมควร ก็น่าจะรู้ข้อมูลสายสนกลในอะไรเกี่ยวกับเรื่องกาสิโน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะฮือฮามาก ถ้ามีหลักฐานตีแผ่ว่า การออกใบอนุญาตจะเอื้อใคร  ส่วนใครในตระกูล “ชินวัตร” ได้รับผลประโยชน์ โดยภาพรวมคือ การอภิปรายของ “บิ๊กป้อม” จะฮือฮาได้ ต้องเอาหลักฐานมากกว่าโวหาร เพราะเจ้าตัวก็ไม่ค่อยพูด  ส่วนข้อมูลเรื่องการถือครอง สนามกอล์ฟอัลไพน์  ก็แว่วๆ ว่า “เสือแก่บางบอน” สมัยยิ่งใหญ่อยู่กระทรวงมหาดไทย นำเอกสาร ข้อมูลมาให้ปึกใหญ่ ถึง ป่ารอยต่อ 

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะรอดู “บิ๊กป้อม” หัวหน้าพรรค พปชร. อภิปรายแล้ว ก็น่าสนใจเรื่อง “ความเป็นเอกภาพใน พปชร.” เพราะก่อนหน้านั้น “คนเคยรักบิ๊กป้อม” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม แสดงความมั่นใจว่า “เสียงสนับสนุนพรรครัฐบาลจะเพิ่มขึ้นแน่นอน” ซึ่งก็เชื่อได้ว่า ไม่ต้องไปดูพรรคไหนไกล คงมาจาก พปชร. 

ไม่แน่ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตอนโหวต เราจะได้เห็นภาพอนาคตของพรรคชัดขึ้นว่า “อยู่หรือแตก” อาจมีคนแสดงตัวว่าใจไม่อยู่แล้ว โดยการยกมือโหวตสนับสนุน “นายกฯ อิ๊งค์” หรือไม่งดออกเสียง หรือหายไปดื้อๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า ก่อนประชุมพรรคมีมติให้โหวตอย่างไร แล้วก็นับเสียง สส.พปชร.ที่โหวตสวนมติพรรคเอา 

การเดินหน้าพรรค พปชร.ต่อ ก็ดูจะยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะในยุค “นายกฯ เจนวาย” คนอยากได้ผู้นำคนรุ่นใหม่  ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ดูจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ขายได้ยาก การเลือก สส.โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อ ยิ่งยึดโยงอยู่กับว่าพรรคไหนเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนไหนด้วย ขณะนี้ถ้ามองไปใน พปชร. เรียกว่า แทบไม่มีและ “บิ๊กป้อม” เองก็คงไม่วางมือให้คนอื่นเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทน 

ดังนั้นคงต้องรักษาและประคอง พรรค “พปชร.” ไปจนถึงวันใกล้เลือกตั้ง แล้วจะรู้ว่า “บิ๊กป้อม” จะไปต่อหรือพอแค่นี้??