ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 10 มี.ค. นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีวาระพิจารณาสำคัญ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับให้สิทธิบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ และหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้จ่าย ร้านค้าที่เข้าร่วม หลังได้ผ่านการพิจารณาที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานไปแล้ว

เบื้องต้นในส่วนผู้ลงทะเบียน ยังใช้หลักเกณฑ์เดิม ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 17.5 ล้านคน ใช้งบกว่า 175,000 ล้านบาท แต่ต้องรอดูมติที่ประชุมว่าจะพิจารณาให้ทยอยใช้เงินดิจิทัลแบ่งเป็นเฟสๆ หรือให้ใช้พร้อมกันทีเดียว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะให้กลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุ 16-20 ปี ที่มีประมาณ 2 ล้านกว่าคน งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท ได้ใช้ก่อน เพราะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยเป็นการทดสอบระบบไปในตัว

ขณะที่การจัดทำแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งเป็นการดำเนินการของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือดีจีเอ ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ จึงคาดว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสสาม จะเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค. 68 หรืออย่างช้าต้นเดือน มิ.ย. 68  

สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ ก่อนวันที่ 16 ก.ย. 67 เป็นผู้ที่มีรายได้ปีภาษี 2566 ไม่เกิน 840,000 บาท มีเงินฝากกับธนาคาร ณ วันที่ 31 มี.ค. รวมกันเกิน 500,000 บาท ที่ไม่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ ไม่เคยฝ่าฝืน ถูกระงับสิทธิ หรือถูกเรียกเงินคืนจากมาตรการหรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาล