กรณี นายกฤช ศิลปชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ระยอง พรรคประชาชน รองประธานคณะกรรมการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาชะเมา และเจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าที่ รย.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ปรับพื้นที่เขาทำไร่ทุเรียน ใกล้วัดเขาพังชมภูพร ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เขตรอยต่อระยอง-จันทบุรี หลังรับเรื่องร้องเรียน ตีแปลงแนวขั้นบันได ทำไร่ทุเรียนนับ 100 ไร่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วน
รุกป่าสงวนฯโผล่เขาชะเมา-ระยอง ‘สส.กฤช’ ลุยตรวจ ตะลึงขุดเขาปลูกทุเรียน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอนุชาติ ภิญโญ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ระยอง ได้สั่งการให้นายจักรกฤษ์ แสงกุหลาบ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ (หน.รย.1) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณบ้านเขาพัง หมู่ 3 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง หลังจากนายกฤช ศิลปชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง และคณะ ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้น และพบว่ามีการบุกรุกป่าทำสวนทุเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผลการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกแผ้วถางและปลูกต้นทุเรียนขนาดเล็ก ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าบ้านนา-ทุ่งควายกิน” เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดพิกัดจากดาวเทียมและจับภาพถ่ายทางอากาศเพื่อใช้เป็นหลักฐาน พร้อมบันทึกการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาชะเมา เพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุก เดิมที่ดินดังกล่าวเป็นของนายเปี๊ยก ได้ปลูกยางและโค่นต้นยาง ต่อมาได้ขายต่อให้กับนายทุนไปหลายทอดแล้ว
นายอนุชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ พบว่าไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดิน และไม่พบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ใด ๆ ในบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเอาผิดนายทุนตัวจริง ข้อหาตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ในความผิดฐานบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินป่าไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของรัฐเสียหาย ซึ่งอาจมีค่าความเสียหายมากกว่า 700,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันว่า พื้นที่ คทช. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าบ้านนา-ทุ่งควายกิน” ที่ได้รับอนุญาตให้ชาวบ้านทำกินจำนวน 1,018 แปลง รวม 85 ราย ใน อ.แกลง จ.ระยอง ไม่มีปัญหาการบุกรุกหรือขายเปลี่ยนมือ เนื่องจากมีผู้นำท้องถิ่นกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่าในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
