สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ “อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน” และ “อาจต้องใช้เวลานานระยะหนึ่ง” เพื่อให้นโยบายเห็นผล


ขณะที่นายโฮวาร์ด ลุตนิก รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้” ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงขาลง และอาจถึงขั้น “ถดถอย”


อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์ใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบ “เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา” ซึ่งชัดเจนที่สุด คือ การประกาศมาตรการกำแพงภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโก แล้วค่อยตามด้วยการยกเว้น หรือการผ่อนผันบางส่วน ได้รับการวิเคราะห์ว่า สร้างความผันผวนให้กับตลาด และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน


ทั้งนี้ คาดการณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยธนาคารกลาง (เฟด) สาขาเมืองแอตแลนตา ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อาจหดตัว 2.4%


ด้านนายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า มาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้นานแค่ไหน “ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของประเทศนั้น”.

เครดิตภาพ : AFP