เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสอบ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน จากเหตุเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ย่านพระราม 9 ในราคากว่า 7,000 ล้านบาท ว่าสูงกว่าราคาประเมินของตลาดจริงหรือไม่ โดยในการตรวจสอบ จำเป็นต้องสั่งพักงานของปลัดกระทรวงแรงงาน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ว่า เรื่องนี้เราอย่าวิ่งไปถึงจุดนั้นเลย เพราะการตั้งกรรมการตรวจสอบโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 คน และมีเลขาธิการฯ และผู้ช่วยเลขาธิการฯ อีก 2 คน ที่เป็นคนของกระทรวงแรงงานเอง แต่ไม่มีสิทธิในการออกเสียง แต่เข้าไปช่วยในการเป็นฝ่ายเลขาฯ เตรียมเรื่องเอกสารต่างๆ หรือประสานงานภายในกระทรวง
“ส่วนที่ว่าจะมีการพักหรือไม่พักงานตรงนี้ วันนี้ทางคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ยังไม่ได้มีการเรียกประชุม เพราะฉะนั้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมนั้น เมื่อมีการประชุม แล้วก็เชื่อว่าตรงนี้ เราไม่พยายามที่จะไปใส่ร้าย หรือให้ร้ายใคร เพราะตัวผมเอง อย่างไรก็ต้องบอกว่า เจ้าหน้าที่ของเราบริสุทธิ์ ผมจะไปบอกว่า ข้าราชการของผม ลูกน้องของผม ไม่บริสุทธิ์โดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไร ยังไม่ได้หาข้อเท็จจริง ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่ต้องลงไปดูทั้งหมด ไม่ดูผิวเผิน”รมว.แรงงาน กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า การสอบหาข้อเท็จคงจะรื้อและดูไปถึงว่า อนุกรรมการคือใครบ้าง บอร์ดใหญ่คือใคร ซึ่งการชงเรื่องอาจมาจากข้าราชการ แต่การอนุมัติการศึกษาความเป็นไปได้เป็นเรื่องของบอร์ดใหญ่ อนุกรรมการฯ ลงมาถึงข้าราชการ เพราะฉะนั้นต้องดูในรายละเอียด และตรวจสอบให้ได้ทั้งหมด โดยให้อำนาจคณะกรรมการเต็มที่ เรื่องนี้มีคนเกี่ยวข้องเยอะ รวมถึงผู้ประกันตน 20 กว่าล้านคน เป็นแรงงานก้อนใหญ่ของประเทศไทย และเป็นเจ้าของเงินนี้
เมื่อถามว่าการตั้งกรรมการ ทำให้ข้าราชการในกระทรวงแรงงาน และสปส.เสียขวัญในการทำงาน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าข้าราชการของเรา มีความบริสุทธิ์ เราตั้งใจทำงาน ก็ไม่ควรจะมีอะไรให้ต้องเสียขวัญ เพราะกรรมการตรวจสอบ ก็มาตรวจสอบข้อเท็จจริง และเราไม่ได้ตั้งธงว่าใครถูก ใครผิด เราต้องหาข้อเท็จจริงว่าคืออะไรกันแน่ เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าตั้งมาเพื่อจะเป็นการช่วยเหลือ หรือเพื่อเป็นการลงโทษ แต่มาหาข้อเท็จจริง ภายใต้กรอบระยะเวลาในการทำงาน 90 วัน จริงๆ ไม่มีใครอยากมาเป็นกรรมการ โดยเฉพาะการมาสอบข้าราชการ เพราะฉะนั้นบนพื้นฐานของความไม่สบายใจ เราจึงต้องให้เวลากรรมการในการตรวจสอบ เพราะถ้าผลสอบออกมาดีทั้งหมด ก็จะถูกหาว่าซูเอี๋ยกัน ถ้าผลออกมาไม่ดี ก็หาว่ากลั่นแกล้ง ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะทำให้อยู่ตรงกลาง ไม่ใช่เรื่องง่าย