ปกติ โรคอัลไซเมอร์ซึ่งเกี่ยกับความเสื่อมของสมองมักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยสูงวัย ในช่วง 50-60 ปี แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่เริ่มมีอาการของโรคนี้อย่างเด่นชัดตั้งแต่ช่วงวัย 40 ปี

ชายหนุ่มวัย 41 ปีชาวออสเตรเลียซึ่งเรียกตัวเองเพียงชื่อสั้นๆ ว่า “เฟรเซอร์” เปิดใจผ่านช่องยูทูบของเขา โดยชี้ว่าเขาเริ่มมีอาการบางอย่างที่บ่งบอกว่าอาจเป็นระยะเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่ช่วงอายุ 30 ปีเศษ เพียงแต่อาการเหล่านี้เป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่บางคนอาจไม่ได้ใส่ใจหรือมองข้ามไป

เฟรเซอร์เล่าว่า เขาเริ่มรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ราวสองหรือสองปีครึ่ง เขาจำไม่ค่อยได้ชัดเจนว่าอาการเหล่านั้นคืออะไรบ้าง แต่รู้ว่าความจำของตัวเองเริ่มมีปัญหา เมื่อเขาดูหนังเรื่องหนึ่งซึ่งแฟนของเขาบอกว่า เคยดูด้วยกันมาแล้ว แต่เขากลับจำเนื้อเรื่องไม่ได้เลย ราวกับว่าเขาไม่เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน

เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้ข้อมูล วิเคราะห์และประมวลผลเพื่อตัดสินใจ จนกระทั่งก่อนหน้าที่แพทย์จะบอกว่าเขาป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์เพียงไม่กี่เดือน เขาก็รู้ตัวแล้วว่าเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ความคิด เขาไม่สามารถคิด พิจารณาเรื่องต่างๆ อย่างลึกซึ้งได้อีกต่อไป 

สำหรับอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่า เราอาจเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ซึ่งมักถูกมองข้าม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อายุยังน้อย เพราะคิดว่ายัง “ไม่ถึงวัย” ที่จะป่วยเป็นโรคนี้ได้ มีดังนี้

• มีปัญหาด้านความจำที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

 • มีอาการสับสนและไม่รู้ทิศทาง

 • บุคลิกภาพและพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

 • มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ภาษา

 • มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว

 • มีปัญหาทางสายตา

 • มีปัญหาในการใช้ความคิดเพื่อวางแผนและแก้ไขอุปสรรค

อาการเหล่านี้ในช่วงแรกอาจปรากฏไม่มากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการก็จะยิ่งแย่ลงและเริ่มเป็นที่สังเกตได้ว่าไม่ปกติ

ถ้าหากใครก็ตามที่มีอาการดังกล่าวและรู้สึกกังวลก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือเข้ารับการทดสอบเพื่อคัดกรองว่าเข้าข่ายผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์หรือไม่ หรือเป็นเพียงอาการที่เกิดจากภาวะทางอารมณ์ นอกจากนี้ ผู้ที่กินยารักษาโรคบางชนิดก็อาจมีอาการข้างเคียงคล้ายโรคสมองเสื่อมได้

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES