เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รองผกก.กก.ดส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.หญิงชาดา เสสะเวช สว.กก,ดส.บช.น. จับกุมตัว นายชาญณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ที่ก่อเหตุ ตามหมายจับ
1.ศาลจังหวัดพะเยา ที่ 225/2567 ลง ธ.ค.67 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายและหน่วงเหนียวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพและพรากผู้เยาว์อายุหว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่ออนาจาร โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไป”
2.หมายจับศาลพะเยา ที่ 226/2567 ลง ธ.ค.67 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายและหน่วงเหนียวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ” 3.หมายจับศาลจังหวัดเทิง คดีหมายเลขดำ อ.420/2567 คดีหมายเลขแดง อ 548/2567 ลง ก.ย.67ข้อหา “ฉ้อโกง” จับกุมได้ที่บริเวณโรงแรมย่านสุวรรณภูมิ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดส.ได้รับการประสานจากตำรวจสภ.แม่กา ว่านายชาญณรงค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับกระทำอนาจารหลบหนีจากจังหวัดพะเยามาซ่อนตัวใกล้พื้นที่กทม.-ปริมณฑล ตำรวจดส. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ทำการสืบสวน จนกระทั้งพบว่า นายชาญณรงค์ ได้หลบหนีมาเปิดโรงแรมแถวสุวรรณภูมิ จึงได้เข้าทำการจับกุมดังกล่าว จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบ รถยนต์สีขาว ที่ใช้ก่อเหตุโดยนายชาญณรงค์ ได้ทำการสลับป้ายทะเบียนตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแผ่นป้ายทะเบียนที่นายชาญณรงค์ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางในคดี
สำหรับพฤติการณ์ก่อนหน้านี้ นายชาญณรงค์ ขับรถยนต์สีขาว เข้าไปภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา พบนักศึกษาจอดรถไว้ด้านนอกห้ามเอารถเข้าไป จึงทำทีขับรถเข้าไปส่งภายในมหาวิทยาลัยดังกล่าว จากนั้นได้ทำการกอดจูบลูบคลำ นักศึกษาคนนั้นพร้อมทั้งยึดมือถือก่อนปล่อยลงจากรถ จากนั้นขับรถยนต์มาพบเด็กสาวประมาณ 17 ปี รอรถอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ หน้ามหาลัยดังกล่าว ทำทีสอบถามทาง ซึ่งได้หลอกอุบายทำเป็นไม่ได้ยินและให้เด็กสาวเปิดประตูเพื่อบอกทาง หลังจากนั้นได้ดึงแขนเด็กสาวขึ้นรถและขับออกไป พยายามให้เด็กสาวใช้มือสำเร็จความใคร่ เด็กสาวไม่ยอม นายชาญณรงค์จึงได้ใช้มือตนเองจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นขับรถต่อและได้ไล่เด็กสาวลงกลางทาง เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องจึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.แม่กา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีเป็นเวลา กว่า3 เดือน จนกระทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส. จับกุม
