สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ของนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศ ซึ่งประกาศให้นายอิบราฮิม ราซูล เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำกรุงวอชิงตัน มีสถานะเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และรัฐบาลวอชิงตันไม่มีความจำเป็นต้องหารือกับบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป


แม้ยังไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจน ว่าราซูลต้องเดินทางออกไปจากสหรัฐภายในเมื่อใด แต่วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเอกอัครราชทูตเป็นบุคคลที่ “เล่นกับประเด็นทางเชื้อชาติเพื่อหวังผลทางการเมือง” และ “มีความเกลียดชังต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ”


ด้านสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ประจำกรุงวอชิงตัน ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ โดยข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่า ราซูลมอบอักษรสาส์นตราตั้งให้แก่สหรัฐเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของรัฐบาลวอชิงตันในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเป็นครั้งที่สองแล้ว ซึ่งราซูลได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐ


ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับแอฟริกาใต้ตึงเครียดอย่างหนัก เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการตัดงบประมาณสนับสนุนแอฟริกาใต้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่มีการออกกฎหมายที่ดินโดยไม่มอบเงินชดเชยให้กับชาวผิวขาว ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และการที่แอฟริกาใต้ฟ้องอิสราเอลต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์.

เครดิตภาพ : AFP