วันนี้ (18 มีนาคม 2568) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงแนวทางที่รัฐบาลจะซื้อหนี้เสียคืนจากประชาชน ว่า การแก้ปัญหานี้ที่อดีตนายกฯ ทักษิณ พูด สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงการคลัง ที่ทางนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ดูแลอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปแนวทาง การดำเนินการเรื่องนี้จะช่วยให้คนที่เป็นหนี้เสีย มีโอกาสกลับเข้ามาเป็นกลไกให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้
“อย่าไปคิดว่ารัฐบาลไม่ดูแลคนที่เป็นลูกหนี้ที่ดี เพราะท่านมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากกว่า และได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอยู่แล้ว ตามการจัดชั้นหนี้” นายจุลพันธ์ กล่าว
ขณะนี้ทิศทางเรื่องของหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลดีขึ้นมาก ตัวเลขตอนที่เข้ามาใหม่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น แต่ในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในช่วงที่ตัวเลขทรงตัว แต่ยังไม่มีมาตรการที่จะดึงคนที่เป็นเอ็นพีแอลออกมาจากการเป็นเอ็นพีแอล จึงต้องมีมาตรการในส่วนนี้ต่อไป ที่จะเอาคนที่เป็นเอ็นพีแอลออกจากส่วนที่ค้างอยู่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เสียหายไปแล้ว ก็ต้องหากลไกที่จะให้กลับมาเป็นหน่วยทางเศรษฐกิจที่ทำการผลิตได้ต่อ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องช่วยคนที่มีความเปราะบางก่อนกลุ่มอื่นๆ
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นการแฮร์คัตหนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การแฮร์คัตหนี้ เพราะมีการไปซื้อหนี้ออกมาจากสถาบันการเงิน ซึ่งการจะใช้เงินของรัฐและเอกชนนั้นทำได้ 2 แบบ ซึ่งก็เหมือนกับการที่ก่อนหน้านี้ที่ธนาคารออมสินเคยทำ JV AMC ขึ้นมาแต่เป็นการดูแลหนี้ของภาคธุรกิจ โดยในส่วนนี้ที่รัฐบาลจะทำใหม่ ก็คือการทำให้มีโครงสร้างที่ลงไปถึงระดับประชาชนรากหญ้าได้