จากราคาทองคำที่ยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค. 68) ณ เวลา 11.02 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 48,200 บาท ขายออกบาทละ 48,300 บาท และทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 47,329.52 บาท ขายออกบาทละ 49,100 บาท
โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล “ทรัมป์” ที่เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ และภาวะสงครามทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง
ปัจจัยเหล่านี้ กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะธนาคารกลางจีน ที่เริ่มกลับเข้ามาซื้อมากยิ่งขึ้นส่งผลให้ราคาทองมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น

หากย้อนดูปริมาณการถือทองคำมากที่สุดในโลกปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า
- อันดับ 1 สหรัฐ ถือทองคำมากที่สุด 8,133.46 ตัน เท่ากับปี 2566
- อันดับ 2 เยอรมนี ถือทองคำ 3,351.53 ตัน ลดลง 1.12 ตัน จากปริมาณ 3,352.65 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 3 อิตาลี ถือทองคำ 2,451.84 ตัน เท่ากับปี 2566
- อันดับ 4 ฝรั่งเศส ถือทองคำ 2,437 ตัน เพิ่มขึ้น 0.03 ตัน จากปริมาณ 2,436.97 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 5 รัสเซีย ถือทองคำ 2,335.9 ตัน เพิ่มขึ้น 3.16 ตัน จากปริมาณ 2,332,74 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 6 จีน ถือทองคำ 2,279.56 ตัน เพิ่มขึ้น 44.17 ตัน จากปริมาณ 2,235.39 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 7 สวิตเซอร์แลนด์ ถือทองคำ 1,039.94 ตัน ลดลด 0.06 ตัน จากปริมาณ 1,040 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 8 ญี่ปุ่น ถือทองคำ 845.97 ตัน เท่ากับปี 2566
- อันดับ 9 อินเดีย ถือทองคำ 876.18 ตัน เพิ่มขึ้น 72.6 ตัน จากปริมาณ 803.58 ตัน ในปี 2566
- อันดับ 10 เนเธอร์แลนด์ ถือทองคำ 612.45 ตัน เท่ากับปี 2566
(อันดับ18) ไทย ถือทองคำ 234.5 ตัน ลดลง 9.66 ตัน จากปริมาณ 244.16 ตัน ในปี 2566