ปัญหาโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำและโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีและลำน้ำพาน จำนวน 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ในรูปแบบอนุมัติทีละโครงการตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ปรากฏผู้รับจ้างก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว ถูกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ขึ้นแบล็กลิสต์กลายเป็นมหากาพย์ความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้พื้นที่ก่อสร้างครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่ง สตง.-กมธ.ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ เพื่อป้องกันการทุจริต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่บริเวณจุดก่อสร้าง โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้มีตัวแทนชาวบ้านตำบลลำพาน ออกมาเรียกร้องทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกมาชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาในช่วงที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ พร้อมกับมีการชูป้ายปกป้อง ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากเชื่อว่ากำลังมีความพยายามดึงเรื่องการสอบสวน โดยเฉพาะ ปธ.กมธ.ป.ป.ช. พร้อมคณะ แทนที่จะมาช่วยกันเร่งแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ จนทำให้ประชาชนที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบการก่อสร้างหวาดผวา ว่าจะได้รับอันตราย ทำให้สภาพจิตใจของประชาชนชาวกาฬสินธุ์ไม่มีความสุข
นายดวง ฉายอำไพ อายุ 62 ปี ชาวบ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนชาวตำบลลำพานที่ได้ออกมาร้องเรียนถึงความเดือดร้อนชาวบ้าน ปัจจุบันยังไม่มีทางจังหวัด เข้ามาสอบถามชี้แจงปัญหาให้รู้ความคืบหน้าว่าเมื่อผู้รับจ้างทิ้งงานไปแล้ว งบประมาณที่ได้มาก่อสร้างจะทำอย่างไรต่อ จะมีเพียง กมธ.ป.ป.ช. เข้ามาติดตามรับฟังปัญหาตามอำนาจหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะต้องตรวจสอบการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารว่างบประมาณที่จัดส่งมานั้นมีปัญหากระทบกับประชาชนอย่างไรบ้าง
“การที่พวกตนออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ ยังต้องการที่จะเป็นกำลังใจให้กับ ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. ที่พวกเราพร้อมที่จะยืนเคียงข้างให้ทำหน้าที่ตรวจสอบให้ถึงที่สุด ที่สำคัญก็ต้องการให้นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบโครงการ 7 ชั่วโคตรที่ จ.กาฬสินธุ์ ทันที เช่นเดียวกับปัญหาการก่อสร้างสะพานพระราม 2 ถล่ม แต่ปัญหา 7 ชั่วโคตรที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว มีการทิ้งงาน ทิ้งเสาเข็ม เศษกองหิน จนสร้างผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับประชาชนคนในพื้นที่ที่ต้องผวากับปัญหาภัยน้ำท่วมที่จะมาในฤดูน้ำหลากนี้ เรียกว่ากำลังทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงอย่างเจ็บปวด”
ด้านแหล่งข่าวแจ้งว่า การติดตามตรวจสอบปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร โดย สตง. ได้มีการจัดทีมชุดใหญ่ในการตรวจสอบเอกสาร การบริหารสัญญาทั้ง 8 โครงการ พบว่าในจำนวน 8 โครงการ มี 2 โครงการ ได้มีการจ้างบริษัทเอกชน คอนเซาท์เป็นที่ปรึกษาโครงการ และกำลังมีการเจาะรายละเอียดการทำงาน โดยเฉพาะในผลจากงานก่อสร้างทั้งหมด เพื่อพิสูจน์การเบิกจ่ายเงินงวดงานในแต่ละงวด ที่รวมทั้งค่าแอดวานซ์ 15% และงวดงานทั้งหมดที่มีการเบิกไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท ว่าเป็นไปตามความเป็นจริงหรือไม่อย่างไร ขณะที่การติดตามตรวจสอบ กมธ.ป.ป.ช. จะมีการเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจงยัง กมธ.ป.ป.ช.อีกครั้งก่อนสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. พิจารณาตามอำนาจหน้าที่
