เมื่อวันที่ 20 มี.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่รัฐบาลไทยส่งกลับประเทศจีน เมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 2 ซึ่งที่อยู่ของชาวอุยกูร์อยู่ห่างจากโรงแรมที่พักในตัวเมืองคาซือ ประมาณ 270 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ในระหว่างการเยี่ยมเยียน พ.ต.อ.ทวี ได้สอบถามชายชาวอุยกูร์ถึงความเป็นอยู่ หลังจากถูกส่งกลับมาบ้านแล้ว ซึ่งชายชาวอุยกูร์ ตอบว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้พาตนไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย และยังพาตนกับครอบครัวไปเที่ยวข้างนอกในเมืองอื่น ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ ขณะที่สมาชิกในครอบครัวปลอดภัย ทำให้ตนรู้สึกว่าได้ชีวิตใหม่เป็นปกติแล้ว ขณะนี้ตนอายุ 36 ปี ก่อนออกนอกประเทศ ก็ได้แต่งงานแล้ว มีลูก 3 คน โดยมีอาชีพเป็นช่างตัดผม และมีร้านตัดผมเป็นของตัวเอง แต่ช่วงก่อนที่ตนออกนอกประเทศ ยังไม่มีบ้านหลังนี้ ดังนั้น เมื่อตนได้กลับมาแล้ว รัฐบาลจีนได้ให้เงินสนับสนุน จำนวน 28,500 หยวน (ประมาณ 140,000 บาท) ให้มาสร้างบ้าน โดยตนพร้อมทั้งพ่อแม่ ภรรยา และลูก พักในบ้านหลังนี้

ชายชาวอุยกูร์ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนถูกจับ ว่า กลุ่มก่อการร้ายโกหก ทำให้ตนหลบหนีออกนอกประเทศผิดกฎหมาย ตอนที่ถูกจับ มีตนคนเดียว ขณะที่ถูกกักในไทย ตนไม่เคยมีการเขียนจดหมายกลับมา และเมื่อกลับจากไทยแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นใน 40 คนอีกเลย ทั้งนี้ ในช่วงที่กลับมาถึงใหม่ๆ รู้สึกเครียด แต่รัฐบาลท้องถิ่นมีน้ำใจแก่ตนและครอบครัว จึงทำให้ตอนนี้รู้สึกสบายใจและไว้วางใจ ปัจจุบันตนมาเป็นชาวนา และดูแลครอบครัวเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามีเสรีภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีการบังคับ ไม่เคยถูกทำร้าย นอกจากนี้ขอขอบคุณนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากประเทศไทย ตนรู้สึกประทับใจและขอบคุณรัฐบาลท้องถิ่นอีกครั้ง โดยกลับมาครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ซินเจียงมีการพัฒนา แต่ทั้งประเทศจีนมีความทันสมัยมาก

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้สอบถามเรื่องการศึกษา ซึ่งชายชาวอุยกูร์รายนี้ กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ แม้มารดาเป็นครู และอยากให้ตนเรียน แต่ตนไม่เชื่อฟัง ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยม เพราะจะมาดูว่ามีความปลอดภัย และมาดูว่าชีวิตดีขึ้นหรือไม่ แต่เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกสบายใจ รวมถึงขออวยพรให้ชายชาวอุยกูร์และครอบครัวมีความสุขสมหวัง

สำหรับบรรยากาศการพูดคุยกับครอบครัวชาวอุยกูร์นี้ มารดาของชายชาวอุยกูร์กอดหอมแก้มลูกชาย และแสดงความคิดถึง ขณะที่ลูกสาวของชายคนดังกล่าว โผกอดพ่อตัวเอง จากนั้น ครอบครัวนี้ได้ร้องเพลงพื้นถิ่น ซึ่งมีความหมายของเพลงว่า ดวงดาวที่ส่องสว่างบนฟ้า เป็นประกายเหมือนตาของแม่ ก่อนที่มารดาจะร้องอีก 1 บทเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่ชื่นชมและขอบคุณคุณแม่ ที่ดูแลลูกมาจนเติบโต นอกจากนี้ ทางครอบครัวได้เชิญ พ.ต.อ.ทวี และคณะ ชิมขนมของว่างที่จัดเตรียมไว้ พร้อมเล่าว่า อาหารที่ตั้งไว้แบบนี้มีทุกบ้าน เป็นประเพณีท้องถิ่น จัดแบบนี้ทุกวัน แม้จะมีแขกมาหรือไม่ก็ตาม ส่วนเดือนรอมฎอนก็ทานได้