สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ให้เริ่มขั้นตอนการยุบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นไปตามหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ตั้งแต่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า นางลินดา แมคแมน ซึ่งผู้นำสหรัฐขอให้เป็น “รมว.ศึกษาธิการคนสุดท้าย” ใช้อำนาจทั้งหมดที่มีอยู่ตามกฎหมาย “ส่งคืน” อำนาจในเรื่องนี้ กลับไปให้แต่ละรัฐบริหารจัดการกันเอง

https://twitter.com/FoxNews/status/1902822596241924466


อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญของสหรัฐระบุชัดเจน ว่าการก่อตั้งและยุติการดำเนินงานของหน่วยงานระดับกระทรวงแห่งใด ต้องผ่านการอภิปรายและลงมติเห็นชอบโดยสภาคองเกรส จึงเป็นไปได้ว่า รายละเอียดในคำสั่งของทรัมป์ น่าจะหมายถึงการลดจำนวนบุคลากร และขอบเขตอำนาจของกระทรวงศึกษาธิการให้มากที่สุด

https://twitter.com/RapidResponse47/status/1902849044042387839


ขณะที่พรรคเดโมแครตและหน่วยงานเกี่ยวกับการศึกษาอีกหลายแห่ง วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก และแสดงความกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อโครงการสำคัญหลายโครงการ ทั้งโครงการอาหารกลางวัน และทุนการศึกษา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนางลินดา แมคแมน รัฐมนตรีศึกษาธิการ


ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ แมคแมนประกาศมาตรการลดจำนวนบุคลากรภายในกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่ง จะได้รับอีเมลแจ้งให้พักงาน ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. นี้ เป็นต้นไป และทุกคนจะยังคงได้รับเงินเดือนตามปกติ จนถึงวันที่ 9 มิ.ย. โดยทุกสำนักงานและทุกแผนกของกระทรวงศึกษาธิการ จะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวหลังเสร็จสิ้นขั้นตอน และจะเหลือบุคลากรในทุกหน่วยงานรวมกัน 2,183 คน


ปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2522 มีเจ้าหน้าที่ 4,133 คน และได้รับงบประมาณสนับสนุนปีละประมาณ 238,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.03 ล้านล้านบาท) ถือเป็นกระทรวงขนาดเล็กที่สุด ในบรรดาหน่วยงานระดับกระทรวงทั้ง 15 แห่งของสหรัฐ.

เครดิตภาพ : AFP