สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ว่า ในปี 2567 บีวายดีทำรายได้ 777,100 ล้านหยวน (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) ตามรายงานซึ่งเผยแพร่เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่าน และส่งมอบให้แก่ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น แซงหน้ารายได้ 97,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 ล้านล้านบาท) ที่เทสลาประกาศไว้ก่อนหน้านี้

ผลประกอบการของบีวายดีเพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน และดีกว่าที่บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่ 766,000 ล้านหยวน (ราว 3.5 ล้านล้านบาท)

ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิของบีวายดีในปี 2567 อยู่ที่ 40,300 ล้านหยวน (ราว 188,834 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 34% จากปี 2566 และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

รายงานของบริษัทระบุว่า กำไรสุทธิในไตรมาสสุดท้ายของปีแตะระดับสูงสุดที่ 15,000 ล้านหยวน (ราว 70,358 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี และบีวายดีขายรถได้เกือบ 4.3 ล้านคัน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ ยอดขายรายเดือนของเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ยังพุ่งสูงขึ้น 161% เป็น 318,000 คัน สวนทางกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของเทสลา ซึ่งลดลงอย่างรวดเร็ว

ในเดือนนี้ ราคาหุ้นของบีวายดีที่จดทะเบียนในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ หลังบริษัทเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งมีความเร็วในการชาร์จสูงสุด 1,000 กิโลวัตต์ และทำให้รถยนต์สามารถเดินทางได้ไกลถึง 470 กิโลเมตร หลังจากชาร์จเพียง 5 นาที โดยใช้เวลาน้อยกว่า “Supercharger” หรือซูเปอร์ชาร์เจอร์ของเทสลา ซึ่งมีความเร็วในการชาร์จ 500 กิโลวัตต์.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES