นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เมื่อวันที่ 26 มี.ค. มีมติให้สำนักงาน กสทช. จัดทำรายละเอียดและเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ 1500 เมกะเฮิรตซ์ 1800 เมกะเฮิรตซ์ 2100 เมกะเฮิรตซ์ 2300 เมกะเฮิรตซ์ และ 26 กิกะเฮิรตซ์ ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ หลังจากที่เคยประชาพิจารณ์ไปแล้วเมื่อ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นไปตามที่บอร์ด กสทช.มีมติไปก่อนหน้าให้มีการรับฟังความเห็นใน 7 วัน
ทั้งนี้ จากความเห็นของสำนักงาน กสทช.ที่รายงานต่อที่ประชุม จะมีการกำหนดราคาความถี่ของคลื่นแต่ละย่านใหม่ โดยมีสมมุติฐานที่แตกต่างตามการคำนวณมูลค่า ตามที่บอร์ด กสทช.บางคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดบางความถี่จึงมีราคาเริ่มต้นการประมูลที่ต่ำลงกว่าการประมูลครั้งก่อน นอกจากนี้ อาจจะมีการจัดกลุ่มคลื่นความถี่ใหม่ โดยเป็นคลื่นที่กำลังจะสิ้นสุดใบอนุญาตกับคลื่นที่ยังไม่เคยถูกใช้งาน ส่วนกรอบเวลาเดิมที่กำหนดว่าจะจัดประมูลในวันที่ 17-18 พ.ค. 68 เป็นเวลา 2 วัน มีความเป็นไปได้ว่าจะต้องเลื่อนออกไป 1-2 อาทิตย์ ส่วนคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์ จะมีการรับฟังความเห็นจากเอกชนว่าต้องการให้ดำเนินการอย่างไร นำมาประมูลด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทบทวนดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากยังมีหลายประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่น การจัดกลุ่มคลื่นความถี่ การกำหนดราคาขั้นต่ำ ให้มีความสมเหตุสมผล เงื่อนไขการชำระเงิน จาก 50% ในปีแรก 25% ในปีที่ 3 และงวดสุดท้าย 25% ในปีที่ 4 เป็นแบ่งจ่ายเท่ากันปีละ 25% จำนวน 4 งวด หรืออาจจะมีการอนุญาตให้แบ่งจ่าย 10 ปี งวดละ 10% ของราคาใบอนุญาต ตลอดจนผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะและการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ อีกทั้งยังมีประเด็นการตั้งราคาคลื่น 2100 และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีบอร์ด กสทช.กำชับให้สำนักงาน กสทช.ไปทำราคาขั้นต่ำใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่ราคาความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ มีราคาเริ่มต้น 497-3,391 ล้านบาท
