รายงานข่าวจาก สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า วันนี้ (27 มี.ค. 68) บรรยากาศตลาดทองคำในประเทศไทย ราคาปรับขึ้นทันที 50 บาท ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด จากนั้นระหว่างวันราคาเปลี่ยนแปลง 4 ครั้ง โดยที่ปรับขึ้นมา 50 บาท ทั้งหมด 4 ครั้ง ส่งผลให้ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 48,650 บาท ขายออกบาทละ 48,750 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 47,769.16 บาท ขายออกบาทละ 49,550 บาท ทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าที่ขึ้นมา 49,450 บาท ซึ่งเข้าใกล้คาดการณ์ 50,000 บาท อีกอึดใจ และส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปี หรือระยะ 2 เดือน 27 วัน ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้ว 6,350 บาท 

รายงานข่าวจาก บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (วายแอลจี) กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาทองคำปรับขึ้นมาแรงในช่วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือน ก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.0% และนักลงทุนกลับมาความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ขณะที่ บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำยังเสี่ยงอยู่ในช่วงการพักฐาน หากขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ รวมถึงความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ลดความกังวลลงไปได้บ้าง หลังสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ทะเลดำ และข้อตกลงห้ามโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานกับทั้งฝั่งรัสเซียและยูเครน

ทั้งนี้ นักลงทุนเตรียมจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ และจับตาพัฒนาสงครามการค้าของสหรัฐ และการเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับบางประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. รวมถึงจับตาพัฒนาการของ สงครามยูเครน-รัสเซีย, ฉนวนกาซา และทะเลแดง