วันที่ 3 เม.ย. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ (ประมาณช่วงที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง) ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.36-34.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.07 น.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ทั้งนี้ แม้จะมีแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินเยน ความแข็งแกร่งของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณซื้อสุทธิต่อเนื่องพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ แต่เงินบาทก็ยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงในช่วงเช้าวันนี้สอดคล้องกับสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย นำโดย เงินหยวน ท่ามกลาง Sentiment ที่อ่อนแอ และบรรยากาศการลงทุนที่เป็น Risk-Off หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าที่เกินดุลกับสหรัฐฯ รวมถึงไทยที่โดน 36% ซึ่งโดยรวมมีความรุนแรงมากกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์ของสงครามการค้าที่อาจมีความตึงเครียดมากขึ้นจะมีผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.25-34.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณของสงครามการค้าและการตอบโต้กลับหลังมีการเปิดเผยรายละเอียดของ Reciprocal Tariff ของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ ดัชนี ISM/PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) และตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. ของประเทศชั้นนำอื่นๆ