เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี นายฐิติณัฎฐ์ ประจวบโชต กรรมการตัวแทน นายกสมาคมสื่อ สร้างสรรค์เพื่อสังคม พร้อมด้วย น.ส.นงนาฎ ลือตระกูล ทนายความ นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้ายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้า หลังสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ได้รับการร้องเรียนจากผู้สอบเข้า บรรจุตำแหน่งสายงานผู้บริหารของ อบจ. เทศบาล และ อบต. ไม่มีความโปร่งใส ซึ่งเรื่องดังกล่าว ได้มีการยื่นหนังสือ ไปที่ ปปป.แล้วเมื่อเดือนธันวาคม 67 ที่ผ่านมา โดย ปปป. ได้รับหนังสือและส่งเรื่องทั้งหมดมาที่สำนักงานป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณา และสืบสวนหาข้อเท็จจริง หากมีการทุจริตไม่โปร่งใสจริง และส่งเรื่องกลับมาที่ ปปป. ก็พร้อมจะดำเนินการในเรื่องนี้ได้ ทันที
น.ส.นงนาฎ เผยว่า การสอบเข้าสายงาน ตำแหน่งผู้บริหารของ อบจ.เทศบาล และอบต นั้น ทางสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ได้รับการร้องเรียนจากผู้เข้าสอบจำนวนมากว่า มีความไม่โปร่งใส จากการจัดสอบในปี 2567 ของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยศูนย์จัดสอบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าได้เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบแค่หน่วยงานเดียวคือศูนย์สอบมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งเป็นการสอบบรรจุให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหาร การจัดจ้างให้มีการจัดสอบควรที่จะเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษา อื่นๆที่มีความพร้อมและมีบุคลากรเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบด้วย

แต่การสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีเพียงองค์กรเดียวที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คือศูนย์สอบมหาวิทยาลัยดังกล่าวนี้ ซึ่งนอกจากมีการจัดสอบแล้วมีการมอบหมายให้บุคลากรเข้ามาเป็นผู้บรรยายมีการแนะแนวข้อสอบที่จะเข้าทำการสอบเป็นการเอื้อประโยชน์กับผู้เข้ารับการอบรม เชื่อว่าน่าจะมีการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบเพื่อบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่บริหาร ทั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลและอบต หลังจากทางเราได้รับหนังสือแล้ว จึงได้ไปยื่นเรื่องที่ปปป. ตั้งแต่เดือนธันวาคม 67 หลังจากนั้นทางคณะกรรมการ ปปป. จึงได้ส่งเรื่องทั้งหมดมาที่ป.ป.ช เพื่อดำเนินการ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า วันนี้เราจึงมสติดตามยื่นหนังสือสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนแล้ว
ในส่วนของการจัดสัมมนานั้นกรมส่งเสริม การปกครองส่วนท้องถิ่น ควรจะเปิดโอกาสให้ทุกมหาลัยที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการจัดบุคลากรเข้าอบรมเป็นวิทยากรดูแลบริหารจัดการในการสอบครั้งนี้ด้วย แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่ามีสถาบันอุดมศึกษาสถาบันเดียว คือศูนย์สอบธรรมศาสตร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง สถาบันอื่นกลับไม่มีปรากฏเลย จึงมองได้ว่าอาจมีการฮั้วกัน โดยข้อเท็จจริงพบว่ามีการจัดอบรมสัมมนา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่จะมีการสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการสายงานบริหาร 50 จังหวัดเข้าอบรมสัมมนา และมีการตอบรับ 32 จังหวัดจึงเชื่อแน่ว่าการจัดสอบในครั้งนี้น่าจะมีความไม่โปร่งใส จึงมายื่นหนังสือขอให้เลขาป.ป.ช. ช่วยเร่งรัดพิจารณาคดีนี้และให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เข้าสอบและไม่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนั้นด้วย