สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล สั่งการให้บรรดาหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และคณะผู้เจรจาของประเทศ กดดันให้กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ปล่อยตัวประกันที่เหลืออย่างต่อเนื่อง หลังอิสราเอลกลับมาโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินอีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งยุติการหยุดยิงนาน 2 เดือน

กองทัพอิสราเอลระบุว่า สามารถควบคุมพื้นที่และเส้นทางสำคัญหลายแห่งในฉนวนกาซาได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยในขณะนี้ ดินแดนของฉนวนกาซาประมาณ 30% ถูกกำหนดให้เป็น “เขตรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการ” พร้อมกับเสริมว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อ “เป้าหมายก่อการร้ายประมาณ 1,200 แห่ง” และดำเนินการกำจัดเป้าหมายไปแล้วมากกว่า 100 แห่ง นับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.

อนึ่ง นายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพยึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่ และรวมเข้าเป็นเขตปลอดภัยของอิสราเอล ทำให้ฉนวนกาซาเล็กลง และโดดเดี่ยวมากขึ้น

นอกจากนี้ คัตซ์ยังประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงขัดขวางไม่ให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา ซึ่งมีประชากรราว 2.4 ล้านคน โดยให้เหตุผลว่า การปิดกั้นความช่วยเหลือเป็นหนึ่งในแรงกดดันหลัก ที่ป้องกันไม่ให้กลุ่มฮามาสใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องมือกับประชาชน

อย่างไรก็ตาม องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล และการขัดขวางความช่วยเหลือ ทำให้ฉนวนกาซากลายเป็น “สุสาน” สำหรับชาวปาเลสไตน์ และผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือ.

เครดิตภาพ : AFP