เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สาเหตุของการถล่มของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ได้อยู่ที่ฮวงจุ้ย แต่น่าจะอยู่ที่การคอร์รัปชัน ตนคิดว่าประเด็นของเหตุอาคารสตง. ถล่ม ที่จำเป็นต้องติดตาม สืบสวนต่อ ก็คือ ที่มาที่ไปของบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. ไม่ว่าจะเป็น บริษัทผู้ออกแบบอาคาร บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ออกแบบด้วยวงเงิน 73 ล้านบาท ในปี 2561 บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร โดยอาคาร สตง. ได้ขออนุมัติงบประมาณรายการค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน 2,560 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติตามมติ ครม. เมื่อ 4 ก.พ.2563 ต่อมาได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้าง และได้ผู้ชนะการประกวดราคา คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งเป็นผู้เสนอราคารายต่ำสุด ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท และได้ดำเนินการเบิกจ่ายมาแล้วทั้งสิ้น 22 งวด เป็นจำนวนเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 966.80 ล้านบาท
นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า บริษัทควบคุมงานก่อสร้าง สตง. ได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้าง โดยวิธีคัดเลือก ผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง โดยกิจการร่วมค้า PKW บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด เป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงานด้วยวงเงิน 74.65 ล้านบาท สิ่งที่ต้องตรวจสอบโดยละเอียด ก็คือ บริษัทเหล่านี้ได้สัญญาจ้างตามขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่ มีการล็อบบี้ หรือล็อกสเปกตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์จริงหรือไม่
นายวิโรจน์ ระบุว่า ประเด็นที่ต้องแกะรอยตรวจสอบอย่างละเอียด ก็คือ ประเด็นข้อสงสัยในเรื่องความเกี่ยวพันโยงใยกับผู้บริหารระดับสูงของ สตง. รวมทั้งเครือญาติ เครือข่ายพรรคพวกของผู้บริหารระดับสูงของ สตง. และผู้ว่าสตง.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส นายประจักษ์ บุญยัง และนายมณเฑียร เจริญผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายประจักษ์ที่เป็นผู้ลงนามในสัญญาการว่าจ้างอาคาร สตง. และต้องไม่ลืมที่จะต้องตรวจสอบในประเด็นข้อสงสัย ที่อาจเกี่ยวพันกับพล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วย.