นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานมอบเงินชดเชยค่ารื้อถอนกับผู้โยกย้าย จำนวน 12 ราย ตามโครงการโยกย้ายชุมชนบริเวณโดยรอบโบราณสถานวัดช้าง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมในงานมอบเงินชดเชยค่ารื้อถอนในครั้งนี้ด้วย
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้กล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการการอนุรรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พ.ศ. 2566-2575 ในแผนงานที่ 4 แผนงานควบคุมการใช้ที่ดิน โยกย้ายทัณฑสถานบำบัดพิเศษ และปรับปรุงชุมชน กำหนดให้มีการปรับปรุง โยกย้ายชุมชน บ้านเรือน ที่ทับซ้อน เบียดบังโบราณสถาน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่รองรับการโยกย้ายที่จัดเตรียมไว้ จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมอีกด้วย และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นี้ กรมศิลปากรจึงดำเนินโครงการโยกย้ายบ้านเรือนประชาชนที่ทับซ้อนกับโบราณสถานวัดช้าง ให้อยู่ในพื้นที่รองรับที่จัดเตรียมไว้ จำนวน 12 หลัง ใช้งบประมาณโครงการ 12 ล้านบาท
ในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนได้ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในเขตที่เป็นโบราณสถาน โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ได้มีการอยู่กันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอุปสรรคในการพัฒนา บูรณะ และปรับปรุงโบราณสถานให้มีสภาพที่เหมาะสม โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นมรดกโลก กรมศิลปากรจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่เรียกว่า “วัดช้าง” จำนวน 11 หลัง และยังมีบริเวณหน้าตำหนักสิริยาลัยอีกจำนวน 1 หลัง รวมเป็น 12 หลัง เนื่องจากทางกรมศิลปากร ได้มีข้อตกลงกับทางศูนย์มรดกโลก (ยูเนสโก) จะต้องมีการพัฒนาพื้นที่โบราณสถาน รวมทั้งในอนาคตจะต้องมีการกันพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนให้ออกนอกเขตของโบราณสถาน เพื่อที่จะทำการขุด แต่ง และบูรณะต่อไป วันนี้ที่ได้ความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ทางกรมศิลปากรได้ชดเชยค่ารื้อถอนและหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่อยู่เดิม โดยเป็นพื้นที่ของธนารักษ์ หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะคืนพื้นที่โบราณสถาน เพราะหลักการของกรมศิลปากร ต้องการให้ประชาชนและโบราณสถานอยู่ร่วมกันได้อย่างดี นายพนมบุตร กล่าวในที่สุด