เมื่อเวลา 19:20 น. วันที่ 19 เม.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงข่าวการจับกุม นายชวนหลิง จาง หนึ่งในกรรมการผู้ถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มลงมา โดยจับกุมในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ภายหลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายชวนหลิง จาง พร้อมผู้ถือหุ้นคนไทยในบริษัทรวม 4 ราย

พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า คดีนี้มีการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง DSI และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย DSI ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย เป็นคนไทย 3 ราย และนิติบุคคลคือ บริษัท ไชน่าฯ ในข้อหานอมินี เนื่องจากพบหลักฐานว่าบริษัทได้นำคนไทย 3 ราย มาถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยมีหลักฐานทางการเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ที่มีการกู้ยืมจากกรรมการบริษัทที่เป็นชาวจีน ซึ่งการถือหุ้นในลักษณะนี้ขัดต่อกฎหมายที่กำหนดให้ธุรกิจของคนต่างด้าวต้องมีคนไทยถือหุ้น 51% และต่างด้าว 49%

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า DSI ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนในอีก 2 ประเด็นสำคัญ คือ การประมูลงานว่าเข้าข่ายฮั้วประมูลหรือไม่ และการตรวจสอบสัญญาต่างๆ รวมถึงสัญญาออกแบบ สัญญาควบคุมงาน ที่พบการถูกปลอมลายเซ็นวิศวกรหลายราย และสัญญาก่อสร้างที่มีการแก้ไขแบบถึง 9 ครั้ง ซึ่งต้องรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ

พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญกับคดีนี้ และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดโอกาสให้นายชวนหลิง จาง ชี้แจงข้อกล่าวหา และให้บริษัท ไชน่าฯ นำหลักฐานมาแสดง เพื่อพิสูจน์สาเหตุการพังถล่มของอาคาร สตง. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา อธิบดี DSI กล่าวว่า ขณะนี้นายชวนหลิง จาง เพิ่งเดินทางมาถึงและอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยมีล่ามและทนายความเข้าร่วมตามสิทธิ์ ซึ่งผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี DSI ดำเนินการสอบสวนใน 3 เรื่องหลัก คือ นอมินี, ฮั้วประมูล และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อตรวจสอบคุณภาพวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กและปูน ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุโดยตรงหรือโดยอ้อมของการพังถล่ม

ส่วนผู้ต้องหาคนไทยที่เป็นนอมินี 3 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยยืนยันว่ายังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 คนถือหุ้นรวมกัน 51% ในบริษัท แต่จากการสอบสวนพบว่าเป็นการถือหุ้นแทนบุคคลต่างด้าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม และรัฐบาลไม่ได้กดดันการทำงานของพนักงานสอบสวน แต่กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และคำนึงถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ เพื่อให้ความจริงปรากฏต่อสังคม

ขณะที่ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า วีซ่าของนายชวนหลิง จาง จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 และมีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นระยะ

สำหรับสถานการณ์ผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารถล่มล่าสุด มียอดผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 47 ราย และยังอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 47 ราย บาดเจ็บ 9 ราย