เมื่อวันที่ 22 เม.ย. น.ส.จุฑาทิพ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี น้องสาวของ พระพรหมพงศ์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองนนทบุรี พร้อมด้วย นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา อายุ 48 ปี ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากผู้สื่อข่าว กรณี พระพรหมพงศ์ ถูกคนร้าย 2 คน บุกเข้าไปในกุฎิภายในวัด ใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับให้ถอดจีวร เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าฆราวาส ก่อนจะบังคับให้ขึ้นรถจักรยานยนต์พาตัวออกจากวัดไปทวงหนี้ พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายเพิ่มเติมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2568 ภายในวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นนทบุรี
กล้องวงจรปิดของวัดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะคนร้ายเป็นชาย 2 คน บังคับให้ พระพรหมพงศ์ ถอดจีวรและเปลี่ยนไปสวมชุดเสื้อผ้าทั่วไป ก่อนจะบังคับให้ พระพรหมพงศ์ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยมีคนร้ายประกบหน้าหลัง พาตัวออกจากซอยภายในวัดไป
นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า เปิดเผยว่า ทางเพจได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนของ พระพรหมพงศ์ ว่า ในคืนวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปหา พระพรหมพงศ์ ถึงในวัด ก่อนจะบุกเข้าไปในกุฏิเพื่อทวงเงินจำนวน 10,000 บาท ที่ พระพรหมพงศ์ ติดค้างอยู่ แต่เนื่องจาก พระพรหมพงศ์ ยังไม่มีเงินให้ จึงเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกัน ก่อนที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาตบเข้าที่ใบหน้าของ พระพรหมพงศ์ จนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ พระพรหมพงศ์ ถอดจีวรออกแล้วเปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าชุดธรรมดา พร้อมกับบังคับให้ พระพรหมพงศ์ ออกจากกุฏิและขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้าย โดยให้ พระพรหมพงศ์ นั่งซ้อนตรงกลาง มีคนร้ายประกบหน้าหลัง พาตัวออกจากวัดไปทำร้ายร่างกายเพิ่มเติมภายในซอยแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ก่อนจะปล่อยตัว พระพรหมพงศ์ ในสภาพสะบักสะบอม และ พระพรหมพงศ์ ได้โบกรถแท็กซี่กลับมาขอความช่วยเหลือจากน้องสาว ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
น.ส.จุฑาทิพ น้องสาวของ พระพรหมพงศ์ กล่าวว่า หลังจากที่ พระหลวงพี่ ได้นั่งรถแท็กซี่มาขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที สภาพของ พระหลวงพี่ มีเลือดไหลออกจากจมูกตลอดเวลา ใบหน้าบวมปูด แพทย์รีบนำตัวเข้ารักษาและทำการเอ็กซเรย์ พบว่ากระดูกใบหน้าข้างซ้ายและกรามข้างซ้ายหัก ดั้งจมูกหักผิดรูป หัวเข่าและร่างกายมีรอยถลอก แพทย์ต้องให้ออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ และ พระพรหมพงศ์ กำลังรอการผ่าตัด
น.ส.จุฑาทิพ กล่าวต่ออีกว่า ในระหว่างที่ พระหลวงพี่ นอนรอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้มีพระลูกวัดเดินทางมาที่โรงพยาบาล เพื่อให้ พระพี่ชาย สึก โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้ พระพี่ชาย รักษาตัวได้ง่ายขึ้น เพราะระหว่างการรักษาจะต้องมีพยาบาลมาถูกเนื้อต้องตัว หากยังอยู่ในผ้าเหลืองจะไม่สะดวกในการรักษา ตนมองว่า พระพี่ชาย ยังอยู่ในอาการสาหัส พูดไม่ได้ ทางครอบครัวและเพื่อนของ พระพี่ชาย ที่ไปเฝ้าอาการอยู่ที่โรงพยาบาล จึงเกิดการโต้เถียงและไม่ยอมให้มีการจับสึก เนื่องจาก พระพี่ชาย ยังไม่สามารถพูดได้ แล้วจะให้เปล่งวาจาสึกได้อย่างไร
ทั้งนี้ พระพี่ชาย มีกำหนดที่จะสึกในวันที่ 6 พฤษภาคม นี้ แต่กลับมาเกิดเรื่องเสียก่อน ตนรู้สึกไม่ดีกับทางวัดที่จะมาบังคับให้ พระพี่ชาย สึกจากความเป็นพระในสภาพเช่นนี้ หลังเกิดเรื่องทางวัดก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆ กล้องวงจรปิดภายในวัดก็เสียหมด ทั้งที่ พระพี่ชาย ถูกทำร้ายในกุฎิและถูกอุ้มออกไปทำร้ายร่างกายต่อนอกวัด แต่ทางวัดกลับไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือใดๆ แต่เลือกที่จะตัดบทให้สึกเลย ซึ่งตนทราบมาว่าเร็วๆ นี้ทางวัดจะมีงานเฉลิมฉลองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องการให้ พระพี่ชาย สึก เพราะไม่ต้องการให้วัดมีเรื่องเสื่อมเสีย หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้ว โดยทราบข้อมูลจากเพื่อนของ พระพี่ชาย ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนปล่อยเงินกู้อยู่แถวปากเกร็ด จึงอยากให้ทางเพจกล้าที่จะก้าวช่วยเร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีและตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะห่วงความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวด้วย
ทางด้าน นายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า กล่าวว่า จากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย ตนมองว่าเป็นการใช้อาวุธและกำลัง ข่มขู่ทำร้าย พร้อมกับบุกรุกยามวิกาล ซึ่งเรื่องนี้ทางเพจจะประสานกับทาง ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป