เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม และการค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานยังคงทำงานแข่งกับเวลา ใช้เครื่องจักรกลหนักเจาะสกัดแผ่นคอนกรีตและโกยเหล็กเส้น สลับกับการเดินเท้าค้นหาอย่างละเอียด โดยเฉพาะบริเวณโถงบันได โซน C ซึ่งเป็นจุดที่ทีมค้นหาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา กองอำนวยการร่วม นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกูร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าล่าสุดของภารกิจสำคัญนี้

นายสุริยชัย เปิดเผยว่า การรื้อถอนซากอาคารมีความคืบหน้าไปมาก โดยสามารถลดระดับความสูงของซากอาคารในโซน A และ D เหลือเพียง 9.78 เมตร และโซน B และ C เหลือเพียง 8.58 เมตร ซึ่งเป็นผลจากการทำงานอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าในการค้นหาร่างผู้สูญหายนั้น นายสุริยชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 เม.ย. ทีมค้นหาได้พบร่างผู้เสียชีวิตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ 2 ร่าง บริเวณช่องบันได โซน C และยังพบชิ้นส่วนอวัยวะอีก 3 ชิ้น และล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) เวลาประมาณ 11.00 น. พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ร่าง ในบริเวณช่องบันได โซน C จุดเดียวกับที่พบร่างก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกู้ร่างขึ้นมา และจะนำส่งไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดำเนินการชันสูตรพลิกศพและยืนยันอัตลักษณ์บุคคลตามขั้นตอนต่อไป

นายสุริยชัย ยังกล่าวถึงการขนย้ายซากปรักหักพังของอาคาร สตง. ว่า ขณะนี้สามารถขนย้ายออกไปได้แล้วถึง 221 เที่ยว โดยมีการแยกประเภทของวัสดุระหว่างชิ้นส่วนปูนและเหล็กอย่างชัดเจน และด้วยความคืบหน้าในการรื้อถอนที่เป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถเคลียร์ซากอาคารทั้งหมดจนถึงชั้น 1 ได้ภายในระยะเวลาอีก 8 วัน เนื่องจากขณะนี้ได้มีการเพิ่มจำนวนรถแบ๊กโฮที่ใช้ปฏิบัติการเป็น 28 คัน เพื่อสลับหมุนเวียนทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกูร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการแล้ว 50 ร่าง โดยทางนิติเวชได้ส่งมอบร่างให้กับญาติไปแล้ว 37 ราย และในที่ประชุมกองอำนวยการร่วมวันนี้ มีมติอนุมัติให้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับครอบครัวเพิ่มเติมอีก 5 ราย

พล.ต.ต.วาที กล่าวเพิ่มเติมว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิตที่พบแล้ว 50 ร่าง ยังคงมีชิ้นส่วนอวัยวะของผู้เสียชีวิตอีกกว่า 100 ชิ้นส่วน ซึ่งบางครั้งเมื่อนำมาประกอบรวมกันแล้วก็ยังไม่สามารถระบุเป็นร่างที่สมบูรณ์ได้ เช่น ขาดมือหรือเท้าไป ทางที่ประชุมฯ จึงมีมติว่า หากเคสใดที่สามารถนำชิ้นส่วนอวัยวะมารวมกันแล้วสามารถยืนยันตัวบุคคลได้อย่างชัดเจน เช่น พบส่วนลำตัวที่มีลักษณะสำคัญ แต่ขาดส่วนปลายของแขนหรือขา ก็จะพิจารณาส่งมอบร่างให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้
พล.ต.ต.วาที ยืนยันว่า สำหรับร่างผู้เสียชีวิตที่สามารถตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคคลได้แล้ว แต่ยังมีชิ้นส่วนอวัยวะที่ไม่ครบถ้วน ขณะนี้มีอยู่ที่นิติเวชทั้งหมด 49 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับยอดร่างผู้เสียชีวิตที่ทีมกู้ภัยค้นพบได้ 50-51 ราย ถือว่าการดำเนินการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตให้กับครอบครัวนั้นคืบหน้าไปแล้วถึง 99 เปอร์เซ็นต์

พล.ต.ต.วาที ยังกล่าวถึงการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยมีทีมเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าไปเก็บหลักฐานอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุของการถล่มของอาคารนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างรอบด้าน หากพยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วน ก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร ณ วันที่ 21 เม.ย. เวลา 18.00 น. สามารถค้นพบร่างผู้สูญหายได้แล้ว 51 ราย และยังคงมีผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการค้นหาอีก 43 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาผู้ที่ยังสูญหายให้พบโดยเร็วที่สุด ท่ามกลางความหวังและกำลังใจจากประชาชนทั่วประเทศ