เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอให้ ครม. พิจารณา และอนุมัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ที่ได้รับการมอบอำนาจเต็ม ในการลงนามในร่างความตกลงฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือมอบอำนาจเต็มให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจดังกล่าวด้วย

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า การจัดทำร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดความร่วมมือในการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ โดยร่างความตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายกัมพูชาด้วยแล้ว ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ตั้งอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา โดยฝั่งไทย ตั้งอยู่ที่บ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และฝั่งกัมพูชา ตั้งอยู่ที่บ้านปรม อ.ศาลากราว จ.ไพลิน 2.ขอบเขตของโครงการ จะดำเนินการก่อสร้าง (1) สะพานหลักข้ามแม่น้ำ 40 เมตร (2) เชิงลาดสะพาน 20 เมตร 3.ฝ่ายไทย ภาระหน้าที่คือ รับผิดชอบค่าก่อสร้างทั้งหมดของโครงการ ยกเว้นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ภาษี และค่าธรรมเนียมทุกชนิดในกัมพูชา และควบคุมการก่อสร้าง รวมถึงออกหนังสือรับรองการทำงานและการตรวจลงตราหนังสือเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย แก่บุคลากรและผู้ติดตามฝ่ายกัมพูชา 

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า 4.ฝ่ายกัมพูชา ภาระหน้าที่คือ จัดเตรียมที่ดินในเขตก่อสร้างและรื้อย้ายสาธารณูปโภคพร้อมสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านสาธารณูปโภค อำนวยความสะดวกในเรื่องการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคลากรและผู้ติดตามของฝ่ายไทย รวมทั้งยกเว้นภาษีอากร และค่าธรรมเนียมให้กับฝ่ายไทย 5.การจ้างแรงงาน จะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ วิศวกร และแรงงานที่มีทักษะของบุคลากรฝ่ายไทยเป็นผู้ควบคุมงาน และในส่วนของการก่อสร้าง จะว่าจ้างแรงงานกัมพูชา และหากหาแรงงานกัมพูชาไม่ได้ จะว่าจ้างแรงงานไทยแทน 

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า 6.การบริหารและบำรุงรักษาสะพาน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้มีการจัดทำความตกลงว่าด้วยการบริหารและบำรุงรักษาสะพาน 7.ระบบการจราจร สะพานมี 4 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทางและทางเดินเท้า โดยจุดเปลี่ยนการจราจรตั้งอยู่ที่บริเวณทางเข้าสะพานของแต่ละประเทศ 8.ระยะเวลาการบังคับใช้ มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป ทั้งนี้ ครม. มีมติเห็นชอบร่างความตกลงฯ ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ร่างความตกลงฯ นี้ กำหนดให้ไทยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด จึงเห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ประโยชน์จากการจัดทำร่างความตกลงฯ ในครั้งนี้ ในการประสานความร่วมมือกับราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต่อไป