เจาะสนามเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ในปี 2564 มีการจัดการเลือกตั้งเทศบาลพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 ทั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ที่ได้รับเลือกตั้งในคราวเดียวกัน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และหมดวาระพร้อมกันในวันที่ 27 มีนาคม 2568 ทำให้ต้องกำหนดวันเลือกตั้งเทศบาลขึ้นใหม่ เป็นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ระหว่างช่วง 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง มีเทศบาลบางแห่ง ที่นายกเทศมนตรีหรือสมาชิกสภาเทศบาล ลาออกหรือมีเหตุให้พ้นจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ จึงมีการเลือกตั้งซ่อมไปก่อนแล้ว
สนามเลือกตั้ง จ.อุดรธานี มีการเลือกตั้งเทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 3 แห่ง เทศบาลตำบล 71 แห่ง มีผู้สมัครนายก 143 คน ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล 1,785 คน รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 1,928 คน ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือเทศบาลนคร มีผู้สมัครนายก จำนวน 5 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 ดร.ธนดร พุทธรักษ์ หรือ ดร.หรั่ง อดีตนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กลุ่มรักษ์เมืองอุดร ขอลงรักษาเก้าอี้เก่าเอาไว้อีกสมัย โดยได้แรงสนับสนุนจากเสี่ยปรีชา ชัยรัตน์ คหบดีชื่อดังของเมืองอุดรธานี ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันทั้งจังหวัด ใครๆ ก็ให้ความเคารพและเกรงใจ

เบอร์ 2 นายกิตติกร ทีฆธนานนท์ หรือเสี่ยไก่ กลุ่มนครหมากแข้ง ผู้บริหารบริษัทในเครืออุดรเจริญศรี ตลาดอุดรเมืองทอง อดีตเคยดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เมื่อหลายปีก่อน ได้แรงสนับสนุนจากเสี่ยหมู ณณชัย (หาญชัย) ทีฆธนานนท์ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี และอดีตนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี นอกจากนั้น ยังมีเสี่ยตุ๋ง ดร.อิทธิพล ตรีวัฒนสุวรรณ อดีตนายกเทศมนตรีนครอุดรธานีหลายสมัย ขวัญใจประชาชนผู้สูงวัยออกโรงช่วยเต็มที่

เบอร์ 3 นายคณิศร ขุริรัง หรือทนายนิด ลงในนามพรรคประชาชน โดยก่อนจะมาลงชิงชัยนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เคยเป็นอดีตรองนายก อบจ.อุดรธานี เมื่อหลายปีก่อน และเคยสมัครนายก อบจ.อุดรธานี ในการเลือกตั้ง อบจ. ที่ผ่านมา แต่แพ้ให้กับทางพรรคเพื่อไทย ถึงจะแพ้ในการเลือกตั้ง แต่คะแนนนิยมของพรรคก็ได้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งในเขต อ.เมืองอุดรธานี ทางพรรคได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก ทางพรรคจึงตัดสินใจส่งทนายนิดลงชิงชัยในสนามนี้

เบอร์ 4 นายเพิกภัย มั่งสวัสดิ์ สื่อมวลชนในพื้นที่ขอลงเดี่ยว ไม่ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล โดยอาสาดูแลบ้านเกิด ได้แรงสนับสนุนจากคหบดีและคนมีชื่อเสียงบางกลุ่ม ส่วนเบอร์ 5 นายปัญญา แสวงโชคชัย กลุ่มอุดรก้าวหน้า เป็นนักธุรกิจในแวดวงก่อสร้าง ลงเดี่ยวด้วยเช่นกัน ใช้ลูกขยันเดินหาเสียงพร้อมกับครอบครัว โดยใช้นโยบายเมืองนวัตกรรม โอกาส และคุณภาพชีวิตที่ดี
ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ดูตามสถานการณ์แล้ว มีการขับเคี่ยวกันอยู่ 3 เบอร์ คือเบอร์ 1 เบอร์ 2 และเบอร์ 3 คะแนนเบอร์ 1 และ 2 ได้จากกลุ่มผู้สูงอายุเป็นหลัก ส่วนเบอร์ 3 ได้จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดูแล้วคะแนนสูสีไม่น่าจะทิ้งห่างกันมากนัก ต้องดูโค้งสุดท้ายว่าเบอร์ไหนจะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาใช้กันบ้าง แต่ที่แน่ๆ สู้กันดุเดือด ไม่มีใครยอมใครกันแน่นอน

พิชิต วีระชัย/ศูนย์ข่าวเดลินิวส์อีสานตอนบน