เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เปิดเผยว่า วานนี้ ที่โรงแรมแม่น้ำรามาดาพลาซา นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานงานแถลงข่าว “สายใยรักสองแผ่นดิน : 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีน” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ ร่วมกันจัดขึ้น สานความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ดร.กำพล กล่าวว่า โครงการจัดทำภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน เฉลิมฉลอง 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีนนี้ นับเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ที่จะมีส่วนอย่างสำคัญในการสื่อสารเหตุการณ์สำคัญที่ร้อยรัดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนให้ยั่งยืนยาวมาถึง 50 ปี และจะมั่นคงยั่งยืนตลอดไป ผ่านศิลปะการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์
“ผมต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่มองเห็นคุณค่าความสำคัญของโครงการนี้ และให้การสนับสนุนค่าใช้จ่าย เพื่อผลักดันให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าไปได้” นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าว
ด้านนายกร กล่าวด้วยว่า ภายหลังการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันผ่านไปแล้ว นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ได้บอกกับพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รมว.ต่างประเทศขณะนั้นว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วม คือพันธสัญญาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ซึ่งน่าจะได้ขยายไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยกับประชาชนจีน โดยรัฐบาลจีน สนับสนุนให้จัดตั้งสมาคมมิตรภาพจีน-ไทยขึ้นในประเทศจีน ขณะที่ พล.อ.ชาติชาย มาสถาปนาสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ขึ้นในประเทศไทย และท่านรับหน้าที่เป็นนายกสมาคมคนแรก
“หลังจากท่านชาติชาย พ้นหน้าที่ไปแล้ว นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีนคนที่ 2 ก็คือผม และผมดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีนต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยตลอดระยะเวลานับตั้งแต่ประเทศไทยกับจีน สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน กระทั่งถึงทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศได้เจริญพัฒนาก้าวหน้าไปมาก ครอบคลุมทุกมิติทั้งระดับราชวงศ์ เรื่อยไปถึงภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง และหวังว่าเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจจะได้ถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์ ดราม่า โรแมนติก เรื่องสายใยรักสองแผ่นดิน ให้คนทั้งโลกได้ซาบซึ้ง” นายกร กล่าว
ขณะที่ นายศักดิ์ชัย พฤฒิภัค เลขานุการมูลนิธิปัญญาวุฒิ กล่าวว่าโครงการนี้ถูกจุดประกายขึ้นช่วงปลายปี 2567 และได้นำหารือกับ ดร.กำพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เพื่อประสานพลังกันขับเคลื่อน โดยนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ได้นำโครงการนี้ไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และได้รับคำแนะนำจากบุคลากรของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้นำเสนอเรื่องราว 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เป็นแบบภาพยนตร์อิงข้อมูลความจริง ที่ใครๆก็ดูสนุก และได้สาระความรู้
คำแนะนำของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย คือที่มาของภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน ซึ่งทั้งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ ต่างเห็นพ้องกันที่จะเชิญชวนคุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของเมืองไทย และ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ประพันธ์ดนตรีชาวไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ให้มาช่วยทำให้ภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน เป็นภาพยนตร์ที่น่าประทับใจ
ทางด้าน นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ เปิดเผยว่า การทำภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน โดยอิงข้อมูลจริงจากประวัติศาสตร์ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน นับเป็นโจทย์หินเอาเรื่อง เนื่องจากเป็นหนังพีเรียด ย้อนยุค และยังมีความต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งทีมงานต้องค้นคว้าข้อมูลย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน และต้องคัดสรรนักแสดงที่จะมารับบทให้ดูสมจริงสมจัง
ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจงว่าการทำดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความท้าทายซ่อนอยู่มาก เนื่องจากต้องออกแบบให้ดนตรีมีจังหวะที่ล้อไปกับภาพยนตร์ และต้องผสมผสานดนตรีไทย ดนตรีจีน และดนตรีสากลให้คนดูภาพยนตร์ หรือคนฟังดนตรีแล้วเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง.