จากกรณีพนังกั้นแม่น้ำชีบริเวณบ้านแจ้งจม หมู่ 7 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ขาดเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ก่อนจะขยายวงกว้างเพิ่มยานกว่า 25 เมตร ส่งผลให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง พร้อมเตือนประชาชนพื้นที่รับน้ำนำสัตว์เลี้ยงและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยทางนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ พร้อมระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำเครื่องจักรเข้าซ่อมอุดรอยขาด ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถปิดกั้นทางน้ำด้านนอกกันมวลน้ำชีที่ไหลทะลักเข้ามาได้แล้ว แต่ยังไม่สนิท เนื่องจากช่วงบริเวณที่พนังขาดได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเป็นทางยาวจากเดิม 10 เมตร กว้างขึ้นกว่า 25 เมตร และยังมีความลึก อีกทั้งกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว โดยตลอดทั้งวัน ทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ฝ่ายปกครองอำเภอกมลาไสย เจ้าหน้าที่ อบต.เจ้าเท่า เจ้าหน้าที่ อบจ.กาฬสินธุ์ หลวงชนบทกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยกุดหว้ากมลาไสย ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับชาวบ้านนำเครื่องจักรเข้าซ่อม พร้อมนำกิ่งไม้ ก้อนหินขนาดใหญ่ ตะแกรงตาข่าย และบิ๊กแบ็กวางปิดหัวคันกั้นน้ำไว้ เพื่อเบี่ยงทางน้ำและป้องกันกระแสน้ำไหลทะลักเข้ามาได้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขนย้ายหินใหญ่ และดินทรายเอามาใส่บิ๊กแบ็กเสริมและอุดรอยรั่วเชื่อมทางข้ามชั่วคราว หลังจากนั้นจะใช้ผ้า PU อุดน้ำไม่ให้ไหลแล้วจะถมดินต่อไป

ด้าน นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้การซ่อมแซมพนังที่ขาดมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยสามารถปิดหัวคันกั้นน้ำได้แล้ว แต่ยังไม่สนิท เนื่องจากมวลน้ำมีจำนวนมากและกระแสน้ำค่อนข้างไหลแรง ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่จะหินใหญ่ และดินทรายเอามาใส่บิ๊กแบ็กเสริมคันพนัง และเร่งอุดรอยรั่ว ดำเนินการเชื่อมทางข้ามชั่วคราว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับผลกระทบจากเหตุการณ์พนังกั้นแม่น้ำชีขาดนั้นบ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีพื้นที่การเกษตร ส่วนใหญ่เป็นนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำถูกน้ำท่วมแล้วประมาณ 3,500 ไร่ และอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งทางนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการซ่อมแซมพนังให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเข้าสำรวจความเสียหายพื้นที่ของเกษตรกร ซึ่งหากได้รับความเสียหายให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนไป.