“นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทราบว่ามีเรื่องผลโพลที่ทุกคนให้ความสนใจ ก็พร้อมรับฟังทุกฝ่าย รวมถึงโพลที่สำรวจความเห็นประชาชนก็จะนำไปคิด แต่ใดๆล้วนอนิจจังรวมถึงตำแหน่งนายกฯด้วย

แต่ไม่วายมีข่าวปล่อยเรื่องการปรับ ครม.เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ทันที คาดว่ามาจากพรรคเพื่อไทย เพราะไม่พอใจ เนื่องจากครบสัญญาต่างตอบแทน  6 เดือน ที่ต้องสับเปลี่ยนให้คนอื่นเข้ามาแทน  แถมยังกดดันอ้างชื่อ “นายใหญ่” ให้ปรับอย่างรวดเร็วในต้นเดือน พ.ค.

จากเดิมมีกระแสข่าวรอจังหวะผ่านพ้นการรับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในช่วงปลายเดือน พ.ค.

สำหรับ โผที่ลอยออกมาดื้อๆ  เปรียบเป็นการโยนหินถามทาง  บางตำแหน่งเกินเลยจากความเป็นจริงไปมาก สะท้อนให้เห็นว่าภายในพรรคเพื่อไทยปั่นป่วนสุดๆ

ถึงขนาดปล่อยว่าจะโยก “บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่กระแสข่าวระบุหลุดตำแหน่ง รมว.กลาโหม  ทั้งที่เก้าอี้นี้ไม่ใช่เก้าอี้ของเล่น และกลับไปนั่งตำแหน่งรมว.พาณิชย์ แทน “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์  ที่หลุดจากตำแหน่ง ครม.ไปเลย หลังคนค่ายสีแดงไม่พอใจเรื่องแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตร

ลือกระทั้ง “เสี่ยบอย สรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นแม่บ้านพรรคสีแดง หลุดไปเลยเช่นกัน  แต่จู่ๆ มีชื่อเซอร์ไพรส์ อย่าง “โอปอ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด  สส.บัญชีรายชื่อ จากโควตาเสื้อแดง เข้ามาเป็นแคนดิเดต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   

ยังปั่นกระแสถึงขั้น “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ประธานวิปรัฐบาล) เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการทาบทามให้มากรอกคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีแล้วอีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอยังถูกโหม โดยมีแกนนำบางพรรคร่วมรัฐบาล อยากใช้โอกาสนี้ กลับเข้าครม. “แพทองธาร 2”รวมถึง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ใช้จังหวะนี้ ปรับรัฐมนตรีบางคนออกไป หลังไม่ได้ยึดโยงกับ ฝ่ายอนุรักษ์ แต่เปลี่ยนไปอยู่กับนายทุนแล้ว

สถานการณ์ข้างต้นแตกต่างจากรัฐมนตรีเพื่อไทยในครม. ขณะนี้ที่ขอโอกาสทำงานต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเอง  พร้อมท่องคาถาบทเดียวกันว่า “ยังไม่เคยได้ยินเรื่องปรับครม.จากนายกฯ”

นอกจากนี้แกนนำพรรคเองยังส่งสัญญาณว่า ถ้าไม่มีการขยับปรับ ครม. ก็สามารถลดแรงกระเพื่อมและความขัดแย้งภายในพรรคได้ตามมา เพราะการปรับ ครม.ทุกครั้งจะมีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง 

ไม่อยากซ้ำรอย “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” อดีตรองนายกฯและรมว.การต่างประเทศ ที่ถูกปรับเหลือตำแหน่งเดียว ทำให้เจ้าตัวน้อยใจจนร่อนจดหมายประกาศลาออกจากรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกฯ เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่ส่งสัญญาณยังไม่ปรับในส่วนของตัวเอง  

ขณะที่ “นายกฯอิ๊งค์” ยังนิ่งเงียบกับเรื่องทั้งหมด  แถมยังป่วยเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาล เมื่อค่ำวันที่ 24 เม.ย. หลังกลับจากเยือนกัมพูชา  

แต่ก่อนหน้ามีเพียงข่าวลือสะพัดระหว่างการเยือนกัมพูชาว่า นายกฯได้พูดคุย และย้ำกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย  ในฐานะพรรคภูมิใจไทยว่า “ขณะนี้ยังไม่มีการปรับ ครม.ตามที่มีกระแสข่าว”

ฉะนั้นจึงต้องดูว่าหลังจากนี้ “นายกฯอิ๊งค์” หายป่วยจะบริหารจัดการปัญหาการเมือง และความพึงพอใจของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล  และคนในพรรคเพื่อไทยให้ลงตัวได้อย่างไร ถือเป็นบทพิสูจน์ฝีมือที่สำคัญ ไม่แพ้กับการแก้ปัญหาประเทศ