เมื่อวันที่ 29 เม.ย มีรายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าในวันที่ 1 พ.ค. 2568 จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย  ซึ่งจะมีการพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับการคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ว่าจะสามารถร่วมทำหน้าที่กรรมการร่วมพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับบริษัทในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ได้หรือไม่

สืบเนื่องจากกรณีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นทรูไอดี ได้ยื่นฟ้อง ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อปี 2566 โดยกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จำนวน 127 ซึ่งอาจทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย และอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่าง ๆ ที่โจทก์นำไปออกอากาศ

แม้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะมีคำสั่งประทับรับฟ้อง และต่อมามีคำพิพากษาสั่งจำคุก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 แต่ได้รับการประกันตัวและอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ อีกทั้งยังคงปฏิบัติหน้าที่ใน กสทช. อย่างต่อเนื่อง

ภายหลังศาลประทับรับฟ้อง ทั้งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ศาลได้ยกคำร้องดังกล่าว ต่อมาทั้งสองบริษัทยังได้ส่งหนังสือคัดค้านไม่ให้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง พิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัททรูฯ โดยตรงไปยังศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง และ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.

อย่างไรก็ตาม เมื่อนำหนังสือคัดค้านเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กสทช. พบว่ามีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจ และความไม่ชัดเจนของเหตุแห่งการคัดค้าน ทำให้บอร์ด กสทช. เสียงข้างมากมีมติไม่รับพิจารณาหนังสือดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ในการประชุม กสทช. ครั้งที่ 5/2568 (ต่อเนื่อง) วันที่ 19 ก.พ. และ 21 ก.พ. 2568 เมื่อถึงการพิจารณาระเบียบวาระที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือทรูฯ ประธาน กสทช. ตั้งข้อสังเกตว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง จะมีสิทธิร่วมพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับบริษัทในเครือทรูหรือไม่ โดยผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี สำนักงาน กสทช. ชี้แจงว่าไม่มีเหตุให้ต้องพิจารณาตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ เนื่องจากศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ได้ชี้แจงแล้วว่าตนเองไม่มีสภาพความไม่เป็นกลางอย่างร้ายแรง และคดียังไม่ถึงที่สุด ขณะที่ กสทช. ด้านกฎหมาย ให้ความเห็นว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ต้องออกจากห้องประชุม เพื่อให้กรรมการที่เหลือลงมติว่ามีสภาพร้ายแรงหรือไม่ ขณะที่กรรมการอีกสองคนไม่เห็นว่ามีความจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการลงมติดังกล่าว ท้ายที่สุด ที่ประชุม กสทช. ประนีประนอมกันโดยมีมติให้หารือต่ออนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ กสทช.ซึ่งมีกำหนดประชุมพิจารณาวาระนี้ในวันที่ 1 พ.ค. 2568

ทั้งนี้ อนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธาน กสทช.เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์สูง ประกอบด้วย

1.ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ  ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมและผู้พิพากษาศาลยุติธรรม ประธานอนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช.)

2.ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์  อุวรรณโณ อดีตรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมการคณะกรรมการกฤษฎีกา อดีตศาสตราจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ประธาน กสทช.)

3. ศาสตราจารย์พิเศษ เข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ประธาน กสทช.)

4.ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล  นิติไกรพจน์ อดีตศาสตราจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช.)

5.ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด  เลิศไพฑูรย์ อดีตศาสตราจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน และอดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช.)

6.ศาสตราจารย์ ดร.จตุรนต์  ถิระวัฒน์ ราชบัณฑิต ประเภทวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชากฎหมายระหว่างประเทศ สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ปัจจุบัน เป็นผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช.)

7.พล.อ.เชิดชัย อังศุสิงห์ อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย พล.ต.อ. ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช.)

8.พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร เพิ่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการทำความตกลงทางกาค้าเสรี สภาผู้แทนราษฎร อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย พล.ต.อ. ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช.)

9.พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กรรมการ กสทช.)

10.นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีตกรรมการ กสทช. อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช.)

11.นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กรรมการ กสทช.)

12.นายวีรพล ปานะบุตร อดีตรองอัยการสูงสุด อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช.)

13.นายเพิ่มสิน วิชิตนาค รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำนักงานอัยการสูงสุด อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย ต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช.)

14.นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม อนุกรรมการ อนุกรรมการ (เสนอชื่อโดย พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช.)

ต้องจับตาดูผลการพิจารณาในวันที่ 1 พ.ค.2568 นี้จะออกมาในทิศทางใด โดยหากอนุกรรมการฯ พิจารณาว่าบริษัทใดๆ ในกลุ่มบริษัททรูฯ เป็นคู่กรณีกับศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ก็จะทำให้ กสทช. ทั้ง 7 คนก็สามารถลงมติได้ว่าจะให้ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ร่วมประชุมในวาระที่เกี่ยวข้องต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องได้เสียงมากกว่าสองในสามของกรรมการทั้งหมด แต่ด้วยกระแสความขัดแย้งในบอร์ด กสทช. ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย