สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่ากระทรวงพาณิขย์สหรัฐเผยแพร่รายงาน ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( จีดีพี ) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา หดตัว 0.3% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี
อนึ่ง นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งจีดีพีของสหรัฐในช่วงสามเดือนแรกของปีหดตัว ส่วนจีดีพีของสหรัฐเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว หรือระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค. ที่ผ่านมา ขยายตัว 2.4%
The US economy contracted at the start of the year for the first time since 2022 on a monumental pre-tariffs import surge and softer consumer spending https://t.co/dYFv0ICpRQ
— Bloomberg (@business) April 30, 2025
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นตัวเลขจีดีพีอย่างเป็นทางการ ชุดแรกในรัฐบาลวอชิงตันสมัยที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตัวเลขที่ออกมาเป็นผลจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง และการใช้จ่ายของภาครัฐที่ลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ความไม่แน่นอนและความผันผวนของการบังคับใช้นโยบายเศรษฐกิจ ที่มีการปรับเปลี่ยนหลายครั้งภายในระยะเวลาไม่นาน ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นทั้งในหมู่นักลงทุนและผู้บริโภค.
เครดิตภาพ : AFP