เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข “30 บาท รักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” เขตสุขภาพที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสวรงค์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข น.ส.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เข้าร่วมกว่า 10,000 คน
โดยนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ในปัจจุบันนี้ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพฤติกรรมการกิน การพักผ่อน กิจกรรมต่างๆ ความเคลื่อนไหวของร่างกาย มีคำกล่าวที่ได้ยินกันอยู่แล้วทุกคน ว่าความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ อันนี้เป็นเรื่องจริงที่ รมว.สาธารณสุข ได้กล่าวว่าการที่เราสุขภาพดีขึ้น ทำให้เราประหยัดงบประมาณไปด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลทำให้งานไม่หนักจนเกินไปด้วย แต่ความจริงแล้วพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพใดก็ตาม ถ้าร่างกายแข็งแรงนั่นคือความสุขที่แท้จริง เขาบอกว่าร่างกายก็เหมือนกับบ้านของเรา ถ้าบ้านของเราสะอาด บ้านของเราปลอดภัย เราก็จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ร่างกายของเราก็เช่นกัน ถ้าร่างกายของเราไม่มีโรค แข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เราก็จะมีแรง มีศักยภาพในการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้เองรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากที่อยากให้คนไทยทุกคนแข็งแรง
นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างแรกต้องดูก่อนว่าสิ่งที่เราบริโภคเข้าไปมีประโยชน์หรือมีโทษกับร่างกายอย่างไร เราจะเห็นได้ว่าโรค NCDs เป็นโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่มีคนเสียชีวิตจากโรคพวกนี้มาก จนสาธารณสุขได้มีข้อดำเนินการปฏิบัติออกไป ทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อยลง และพี่น้องคนไทยเองรู้จักวิธีการรักษาสุขภาพของตัวเองดีมากขึ้น นี่เป็นต้นทุนที่สำคัญของประเทศ เพราะทุกคนแข็งแรง มีศักยภาพ ประเทศชาติก็มีโอกาสในการที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้ดียิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะราชการ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นด่านหน้าให้รัฐบาลได้สามารถติดต่อกับพี่น้องประชาชนได้ ให้ประชาชนได้เข้าใจว่ารัฐบาลมีความต้องการที่จะให้พี่น้องประชาชนแข็งแรง เพื่อที่จะมีศักยภาพในการช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ การเข้าถึงบริการสาธารณสุขเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และอยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องเดินทางไกลมาก หรือการที่จะเอายานิดหน่อยง่ายๆ เป็นเรื่องที่ไกลเกินไป ทำได้ยาก อยากให้มีการลดช่องว่างตรงนี้ลง ซึ่งในหลายจังหวัดได้มีการส่งยาถึงที่ มีเทเลเมดิซีน (การแพทย์ทางไกล) เข้ามาทำให้ทุกคนเข้าถึงการรักษา เข้าหาคุณหมอได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้คนไทยของเรามีร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ต้องขอขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ที่ร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ ทุกนโยบายของรัฐบาลอาศัยทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อให้นโยบายต่างๆ ส่งถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงทั่วประเทศ
จากนั้นนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ถ่ายภาพกับ อสม. ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน และได้มอบเครื่องช่วยฟังให้กับผู้สูงอายุด้วย.