ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2568 “หมอเจด-เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์” รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หรือที่หลายคนรู้จักดีว่าเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด” ที่มักจะโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ โดยออกมาเตือนสายชอบนั่งห้องน้ำนานระวังเสี่ยง 5 โรคร้าย ซึ่งระบุว่า “เชื่อว่าแทบทุกคนเป็นแบบนี้นะ เข้าห้องน้ำทีไร มือก็คว้ามือถือไปด้วย นั่งไถนู่นไถนี่ เพลินจนลืมตัวว่าตัวเองขับถ่าย แต่รู้ไหมว่า พฤติกรรมเล็ก ๆ แบบนี้เนี่ย มันทำให้หลายคนป่วยโดยไม่รู้ตัวเลยนะ วันนี้เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่าการนั่งแช่นาน ๆ ในห้องน้ำ มันทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย บางโรคคือใกล้กว่าที่คิดอีก ลองไปดูกัน”
1.ริดสีดวงทวาร
โรคยอดฮิตประจำคนที่ชอบนั่งเพลินในห้องน้ำเลย ก็คือริดสีดวงนี่แหละ เพราะเวลาเรานั่งนาน ๆ โดยเฉพาะถ้านั่งในท่าขับถ่าย (แม้ไม่ได้เบ่งตลอดเวลา) มันจะทำให้เลือดไหลมาคั่งอยู่ตรงหลอดเลือดดำรอบรูทวารเยอะขึ้น จนมันโป่งออกมาเป็นก้อน ช่วงแรก ๆ อาจมีแค่เลือดออกเวลาถ่าย หรือคัน ๆ แสบ ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานไม่ดูแล ไม่ปรับพฤติกรรม ก็มีสิทธิเจ็บปวด บวม หรือถึงขั้นต้องไปผ่าตัดเอาก้อนริดสีดวงออกเลยทีเดียว ทางแพทย์เขาอธิบายว่า มันเป็นเรื่องของแรงดันในช่องท้องที่เพิ่มขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก พอเลือดค้างอยู่ตรงนั้นมากขึ้น ก็เกิดอาการโป่งพองขึ้นมานั่นเอง
2.ท้องผูก
หลายคนเข้าใจผิดว่า “นั่งไว้นาน ๆ เดี๋ยวก็ปวดถ่าย” แต่จริง ๆ มันกลับกันเลย การนั่งแช่นาน ๆ ทำให้ลำไส้เสียจังหวะ แถมยังดื้อกับสัญญาณปวดถ่ายอีกต่างหาก เวลาเรากลั้นถ่ายหรือนั่งรอเกินเหตุ ลำไส้จะดูดน้ำกลับจากก้อนอุจจาระ ทำให้อึแข็ง ถ่ายยาก เบ่งนาน แล้วก็เข้าสู่วงจรนรกท้องผูก เบ่งจนเป็นริดสีดวงอีก ท้องผูกเรื้อรังไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมันส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้เยอะเลยนะ
ไหนจะต้องใช้เวลาถ่ายนาน เจ็บท้อง อึดอัด แถมพอถ่ายยากก็ยิ่งเครียดอีก
3.ลำไส้แปรปรวน (IBS)
หลายคนไม่รู้ตัวว่า เวลานั่งเล่นมือถือในห้องน้ำนาน ๆ นอกจากจะทำให้ “นั่งนานเกินไป” แล้ว ยังมีอีกอย่างที่เกิดขึ้นคือ เรามักจะเพลินจนไม่โฟกัสกับการขับถ่ายจริง ๆ บางทีรู้สึกว่า “ถ่ายเสร็จแล้ว” ทั้งที่ยังมีอุจจาระตกค้าง ทำให้รู้สึกถ่ายไม่สุด พอทำแบบนี้บ่อย ๆ อาจรบกวนจังหวะการทำงานของลำไส้ แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการใช้มือถือในห้องน้ำจะทำให้เป็น IBS โดยตรง แต่ในคนที่มีความเสี่ยงหรือมีความเครียดสะสม พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการแย่ลงได้ เพราะลำไส้กับสมองของเราสื่อสารกันอยู่ตลอด (เรียกว่า gut-brain axis) ถ้าร่างกายรับรู้ความเครียด หรือสัญญาณขับถ่ายเสียจังหวะบ่อย ๆ ลำไส้ก็อาจเริ่มทำงานรวน ๆ จนกลายเป็นอาการลำไส้แปรปรวนในที่สุด
4.กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง
อันนี้หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการนั่งถ่ายนาน ๆ และเบ่งบ่อย ๆ จะส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรงได้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่คลอดลูก หรือคนสูงอายุ กล้ามเนื้อกลุ่มนี้สำคัญมาก มันช่วยพยุงอวัยวะภายในไม่ให้เคลื่อนลงมา ถ้าอ่อนแรงมาก ๆ ก็อาจเกิดภาวะมดลูกหย่อน กระเพาะปัสสาวะเลื่อน หรือปัสสาวะเล็ดได้ บางคนเริ่มต้นแค่รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด หรือท้องน้อยหน่วง ๆ แต่ถ้าไม่ระวังไว้ตั้งแต่แรก ก็อาจกลายเป็นปัญหาระยะยาวที่ต้องใช้กายภาพ หรือผ่าตัดรักษาเลยนะ
5.ติดเชื้อ
เวลานั่งแช่นาน ๆ โดยเฉพาะในห้องน้ำสาธารณะ หรือแม้แต่ในบ้านเราเอง ถ้าไม่ดูแลความสะอาดดีพอ มันก็เสี่ยงติดเชื้อได้เหมือนกัน
เชื้อพวก E. coli, Staph, หรือแบคทีเรียที่อยู่บนพื้น โถส้วม มือถือ ตามจุดต่าง ๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ ทั้งทางผิวหนัง ทวารหนัก หรือช่องทางปัสสาวะ สำหรับสาว ๆ ยิ่งเสี่ยงพิเศษ เพราะท่อปัสสาวะสั้นกว่า โอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ก็สูง แถมบางคนยังชอบกลั้นฉี่นาน ๆ อีก แบบนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกขั้น
บอกเลยว่าแค่ “เลิกเอามือถือเข้าห้องน้ำ” ก็ลดความเสี่ยงได้เยอะแล้วจริง ๆ การขับถ่ายควรใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที ถ้านั่งนานกว่านั้น แปลว่าเรากำลังใช้ห้องน้ำผิดวัตถุประสงค์แล้วล่ะ
วิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ แบบไม่ต้องรอป่วยก่อน
– ฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา
– ดื่มน้ำให้พอ
– กินผักและไฟเบอร์เยอะ ๆ
– เพิ่มโพรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ไส้ ระบบขับถ่ายด็จะดีตามไปด้วย ลดการเข้าห้องน้ำนาน ๆ
– ขยับตัวบ่อย ๆ ไม่จมอยู่กับจอ
เพราะสุขภาพดี เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่เลิก “นั่งแช่” นะครับ…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @หมอเจด