เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากชาวบ้าน หลังมีผู้โพสต์ลงสื่อโซเชียลจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีเกิดความสงสัยตั้งคำถามถึงการที่พบพระภิกษุสงฆ์ออกมาเดินบิณฑบาตในช่วงเวลา 03.00 น. และช่วง 09.00 น. จะกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักในโครงการบ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ จึงขอให้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตามหาความจริง เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจ และเกิดการติฉินนินทา จนนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ได้พบกับพฤติกรรมตามที่ชาวบ้านพบเห็นจริง โดยพระสงฆ์รูปนี้อายุประมาณ 30 ปี โดยมีลูกศิษย์เป็นชายสูงวัย ติดตามออกมาช่วยถือของเดินบิณฑบาตไปด้วย จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ทำการเคาะประตูเพื่อขออนุญาตพูดคุยสอบถามถึงข้อเท็จจริง จนทราบว่าบุคคลที่อาศัยอยู่ภายในบ้านมีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย พระจตุรงค์ อายุ 36 ปี พระวัดเขาบำเพ็ญบุญ นายบรรจง อายุ 65 ปี บิดา และนางอัฐฎางค์ อายุ 67 ปี มีศักดิ์เป็นป้า เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก

พระจตุรงค์ เปิดเผยว่า ได้บวชเรียนเป็นภิกษุมาได้ 2 พรรษา ประจำอยู่ ณ วัดเขาบำเพ็ญบุญ หลังบวชเรียนได้เพียง 1 ปี ก็ออกธุดงค์ไปทางภาคใต้ ไม่ได้อยู่จำวัดเป็นหลักแหล่ง จนมาเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 ทราบข่าวว่าคุณป้าประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมองและเป็นอัมพาตครึ่งซีก หลังกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักในบ้านเอื้ออาทร คุณป้าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่มีคนดูแล แม้คุณป้าจะไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด แต่ก็ได้ชุบเลี้ยงอาตมาดั่งลูกมาแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่
ด้วยความห่วงใย หวังจะได้ทำหน้าที่กตัญญูกตเวทิตา ดูแลตอบแทนผู้มีพระคุณ ที่เคยชุบเลี้ยงมา จึงออกเดินทางจากจังหวัดชุมพรมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย. 68 ซึ่งก่อนเข้าพักอยู่กับคุณป้า ได้มีโยมพ่อติดตามมาด้วย และได้ไปแจ้งให้ทางตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ทราบถึงเจตจำนงในการเข้าพักอาศัยบ้านเรือนเป็นการชั่วคราว เพื่อดูแลคุณป้าที่ล้มป่วย

ซึ่งตลอดระยะเวลาช่วงเวลา 03.00 น. ของทุกวัน จะเดินเท้าออกไปพร้อมกับโยมพ่อเพื่อไปขอรับบิณฑบาตบริเวณพัทยาใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พักออกไปหลายสิบกิโลเมตร ต้องใช้ระยะเวลาเดินเป็นชั่วโมง ด้วยเหตุนี้จึงต้องตื่นแต่เช้า ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างเคลือบแคลงใจ ซึ่งอาหารรวมถึงปัจจัยที่มีผู้ใส่บาตรมาให้ ก็จะนำมาเลี้ยงดูคุณป้าที่ล้มป่วยได้มีอาหารประทังและสามารถดำรงชีวิตให้อยู่รอดต่อไป ซึ่งอาตมาหวังว่าญาติโยมจะเข้าใจในเจตนา อาตมาไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดต่อพระวินัยสงฆ์หรือผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว อาตมาก็จะกลับไปจำวัดศึกษาพระธรรมคำสอนดังเดิม

ด้าน พระครูปลัดวินัย ธีรปญฺโญ เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาท (เตาถ่าน) เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้น ที่มีพระสงฆ์ไม่จำวัดออกมาดูแลบุพการีหรือผู้มีพระคุณที่ล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ยังบ้านพัก ซึ่งการมีความกตัญญูกตเวทิตาสามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เป็นการอยู่ถาวร หรือเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พระสามารถปรึกษาทางเจ้าอาวาสเพื่อขอนำบุพการีหรือผู้มีพระคุณมาดูแลยังวัด ซึ่งหากมีพื้นที่รองรับก็สามารถทำได้เช่นกัน.