สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่า ในการประทานสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่งออกอากาศผ่านบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือ “บีบีซี” เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังศาลอุทธรณ์ของกรุงลอนดอน มีคำพิพากษา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยกคำร้องของเจ้าชาย ซึ่งทรงขอให้มีการคืนขบวนอารักขาเต็มรูปแบบ พระองค์ทรงตรัสว่า แม้สมาชิกในราชวงศ์บางพระองค์จะไม่มีวันให้อภัยพระองค์ “แต่ข้าพเจ้าอยากประนีประนอม” 

เจ้าชายแฮร์รีทรงยอมรับว่า “ข้าพเจ้ามองไม่เห็นโลกที่จะสามารถพาภรรยาและลูก ๆ กลับสู่สหราชอาณาจักร” และทรงตรัสเสริมว่า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ซึ่งเป็นพระราชบิดา “ทรงไม่พูดคุยกับข้าพเจ้าเพราะเรื่องความมั่นคง”

BBC News

ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงไม่ทรงทราบว่า พระราชบิดาซึ่งทรงมีพระอาการประชวร และทรงเข้ารับการถวายการรักษาจากโรคมะเร็ง “จะทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ได้อีกนานแค่ไหน”

เจ้าชายแฮร์รี ซึ่งปัจจุบันประทับอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ หลังลดบทบาทในราชวงศ์วินด์เซอร์ เมื่อปี 2563 ทรงตรัสว่า “คำตัดสินของศาล เป็นการปรักปรำที่หัวโบราณ” และ “ราชวงศ์มีอิทธิพลต่อคำตัดสิน”

พระองค์ทรงมองว่า ปัญหาด้านความปลอดภัย “ถูกใช้เป็นเครื่องมือ” เพื่อควบคุมพระองค์ และทรงขอร้องมาตลอด ให้พระราชบิดาและรัฐบาลสหราชอาณาจักร ช่วยเหลือ

เจ้าชายแฮร์รีทรงตรัสเสริมว่า การตัดสินใจลดระดับการอารักขาพระองค์นั้น เริ่มต้นขึ้นโดยรัฐบาลชุดก่อน ในเมื่อตอนนี้ สหราชอาณาจักรมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว พระองค์ทรงหวังว่า เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรี และนางอีเวตต์ คูเปอร์ รมว.มหาดไทย จะเข้ามาจัดการ.

เครดิตภาพ : AFP