สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่า ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ “มีต เดอะ เพรส” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในประเทศว่า “ท้ายที่สุดแล้ว เขาคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น” อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่า “เพิ่งทำงานเกิน 3 เดือนได้ไม่นาน”


แม้หลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง และการที่ทรัมป์ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการภาษีกับคู่ค้า แต่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า “บางแง่มุมทางเศรษฐกิจ” เป็นผลงานของเขา และยืนยันว่า นโยบายที่ออกมาจนถึงตอนนี้ “สามารถลดต้นทุนได้”


ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวว่า “ส่วนที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ” เกิดขึ้นในยุคของตัวเอง และ “ส่วนที่แย่” เกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน “เพราะไบเดนทำงานแย่มาก”


เมื่อผู้ดำเนินรายการซักถามถึงความเป็นไปได้ ของการที่สหรัฐจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทรัมป์กล่าวว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” และย้ำว่า “นี่คือช่วงเปลี่ยนผ่าน” พร้อมทั้งยืนยันว่า “ยุคสมัยอันเฟื่องฟูของเศรษฐกิจสหรัฐกำลังจะมาถึง”


ในประเด็นเรื่องจีน ที่เผชิญกับอัตราภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐสูงถึง 145% และรัฐบาลปักกิ่งตอบโต้ด้วยอัตรา 125% ทรัมป์กล่าวว่า ทั้งสองประเทศแทบจะตัดความสัมพันธ์ทางการค้าต่อกันไปแล้ว เพราะอัตราภาษีที่สูงลิ่วขนาดนั้น แต่ “ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐขาดทุน” และทรัมป์ยังคงยืนยันว่า “จีนเป็นฝ่ายอยากทำข้อตกลง”.

เครดิตภาพ : AFP