เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ได้รับการแจ้งจากผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึก “ดีพ อันดามัน ควีน” ว่าขณะที่นักท่องเที่ยวดำน้ำลึก (Scuba Diving) บริเวณกองหินริเชลิว ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้พบกับฉลามวาฬตัวเต็มวัย ความยาวประมาณ 6-7 เมตร มีเศษเชือกเก่าหรืออวนเก่าพันติดบริเวณหางของมัน จากนั้นในวันนี้ 5 พ.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำน้ำจากอุทยานฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อทำภารกิจค้นหาและช่วยเหลือฉลามวาฬตัวดังกล่าว โดยใช้การดำน้ำลึกตรวจสอบพื้นที่
แต่ด้วยสภาพน้ำที่ขุ่น ทัศนวิสัยใต้น้ำจำกัดเพียง 5-10 เมตร ทำให้ยังไม่สามารถพบตัวฉลามวาฬได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึกในพื้นที่ หากพบเห็นฉลามวาฬดังกล่าวให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที พร้อมขอให้ผู้ควบคุมนักดำน้ำประจำเรือกำชับนักดำน้ำให้เว้นระยะห่างจากตัวฉลามวาฬเพื่อความปลอดภัยของทั้งนักดำน้ำและสัตว์ทะเลหายาก จากการสอบถามผู้ควบคุมนักดำน้ำลึกซึ่งพบฉลามวาฬ ได้ให้ข้อมูลว่า พบเห็นฉลามวาฬในระยะไกลถึง 2 ครั้ง ทั้งช่วงเช้าและบ่าย แต่ในวันนี้ยังไม่พบเจออีก

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ได้ประสานความร่วมมือกับทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ศูนย์อนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์ และศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 (ภูเก็ต) เพื่อวางแผนและดำเนินการช่วยเหลือ โดยมีการจัดทีมช่วยเหลือออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ทีมปลดเชือก – ทำหน้าที่ตัดเชือกหรืออวนอย่างระมัดระวังและนำกลับฝั่ง, ทีมควบคุมทิศทางสัตว์ – คอยประคองทิศทางการเคลื่อนที่ของฉลามวาฬ, ทีมเฝ้าระวังผู้ปฏิบัติงาน – เพื่อความปลอดภัยตลอดภารกิจ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานทุกภาคส่วนเพื่อให้การช่วยเหลือครั้งนี้ลุล่วงและปลอดภัยที่สุด