เตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้นในงาน Mango Art Festival 2025 เทศกาลศิลปะที่ครบเครื่องที่สุดแห่งปี โดยปีนี้เพิ่มความพิเศษกว่าที่เคย ด้วยการเปิดตัวโซนใหม่ “Art & Design Lane” ที่ผสมผสานพลังแห่งศิลปะและการออกแบบเข้าด้วยกัน เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่สู่การเติบโตทางศิลปะและจินตนาการ พร้อมชวนคุณร่วมสนุกกับเวิร์กช็อปศิลปะ เปลือยเปลือกนอกของมนุษย์ผ่านนักเล่าเรื่องด้วยลายเส้น ออกเดินทางสำรวจภายในจิตใจผ่านศิลปะแห่งปรัชญา และนิทรรศการภาพถ่ายหนึ่งเดียวในเทศกาล ที่จะชวนคุณไปสัมผัสความงามของ ‘เมียนมาร์ในความทรงจำ’ ก่อนการเปลี่ยนแปลงจากภัยพิบัติและสงคราม แล้วคุณจะหลงรัก Art & Design Lane ที่จะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับคุณ!
มีอะไรน่าสนใจในโซนใหม่สุดสร้างสรรค์ ‘Art & Design Lane’
ปรากฏการณ์แปลกใหม่ครั้งแรกใน Mango Art Festival 2025 ที่เปิดตัวโซนใหม่อย่าง ‘Art & Design Lane’ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ยกระดับเทศกาลศิลปะที่ครบเครื่องที่สุดไปอีกขั้น เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายแห่งวงการศิลปะและการออกแบบ พร้อมนำเสนอผลงานสุดสร้างสรรค์ของศิลปินไทยที่มีชื่อเสียง นักเล่าเรื่องด้วยลายเส้น และช่างภาพผู้หลงใหลในการถ่ายภาพวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนผ่านผลงานของพวกเขาได้อย่างน่าสนใจ ภายในโซนประกอบด้วยผลงานของศิลปินถึง 7 ท่าน ได้แก่ Juart Woraset (จ๊วต-วรเศรษฐ์) , Madeaw (มะเดี่ยว), TOR (ต่อ), สมัชชา อภัยสุวรรณ, Artist House Bangkok (บ้านศิลปินคลองบางหลวง), Takorn Textile Studio และ YABULAN ซึ่งต่างก็นำผลงานชิ้นเด็ดมาให้ชมกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น
จากเด็กที่ชอบวาด สู่สถาปนิก สู่นักเล่าเรื่องด้วยลายเส้น
ศิลปิน: ‘ต่อ’ ปิยะ บุณฑริก

หลายคนที่คุ้นเคยกับ ‘ต่อ’ ปิยะ บุณฑริก ต่างก็ทราบดีว่า เขาเป็นศิลปินผู้ไม่เคยหยุดสำรวจความเป็นตัวเอง เริ่มต้นจากความรักในการวาดรูปและเติบโตสู่การเป็นสถาปนิก ทว่าความสนุกในงานศิลปะยังคงผลักดันให้เขาเดินทางต่อ เขายังคงสนุกกับการทดลองสร้างสรรค์ผลงานในหลากหลายสาขา ทั้งการเขียนคอลัมน์ วาดภาพประกอบ การกำกับศิลป์ในภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ ก่อนจะหันมาทำงานครีเอทีฟโฆษณาอย่างจริงจัง แต่ที่สุดเสน่ห์ของศิลปะก็ดึงให้เขากลับสู่เส้นทางที่เขารักมาตั้งแต่เด็กนั่นคือ “การวาดรูป”
ตลอดการเดินทางในชีวิต ต่อ ได้พบเจอผู้คนมากมาย และสนุกกับการเรียนรู้ความเหมือนและความแตกต่างอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เขาเชื่อว่าความหลากหลายของคนเรา คือบ่อเกิดของเรื่องราวที่น่าสนใจ และมองว่าทุกชีวิตล้วนมีเรื่องราวที่น่าติดตาม เขาจึงบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นด้วยลายเส้นง่าย ๆ ที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่แก้ไข ด้วยชื่นชมในความเรียบง่าย และนำเสนอความเป็นธรรมชาติ รวมถึงความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
พื้นที่จัดแสดงผลงานของ ต่อ จึงไม่ต่างอะไรกับการเดินเข้าไปในแกลเลอรีเล็ก ๆ ที่เปิดเปลือยชีวิตผ่านการลากเส้น ในนิทรรศการที่ศิลปินใช้เพียงไม่กี่เส้นสาย เพื่อถ่ายทอดตัวตนระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้างในช่วงเวลาหนึ่ง ราวกับการสำรวจความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกนอก เผยให้เห็นความหลากหลายของเรื่องราวชีวิตและอดีตที่ถูกแบกรับมาตามกาลเวลา ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายในวันนี้ สะท้อนความสมบูรณ์แบบที่ซ่อนอยู่ในความไม่สมบูรณ์แบบ
ศิลปินได้นำเสนอความงามตามธรรมชาติที่ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยทั่วไป แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นวัย เพศ รูปร่าง เชื้อชาติ ทุกร่องรอย ทุกเรื่องราว คือความจริงที่งดงาม แม้จะต่างช่วงเวลา ต่างสถานที่ ทุกคนที่มาเป็นแบบให้เขาได้ลองลากเส้นบันทึกชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านั้น เส้นสายที่ซื่อตรง เรียบง่าย ไม่มีการลบหรือแก้ไข กลับเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของผู้เป็นแบบ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าชีวิตที่แท้จริงนั้นเรียบง่ายเพียงเท่านี้
————————————————————————————-
‘Repeat’ Nothing new. We’re all doing the same old thing
ศิลปิน: ‘มะเดี่ยว’ ธรรรักษ์ แสงสุวรรณ

มะเดี่ยว ศิลปินผู้เริ่มต้นเส้นทางด้วยการเป็นนักเขียนการ์ตูนและนักวาดภาพประกอบ (พ.ศ. 2534 – 2547) ก่อนจะก้าวสู่โลกแห่งศิลปะตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา และตั้งใจว่าจะทำงานศิลปะไปจนวันสุดท้ายของชีวิต ในนิทรรศการที่เขาตั้งชื่อว่า “Repeat: Nothing new. We’re all doing the same old thing” หรือ “ไม่มีอะไรใหม่ เราทุกคนต่างก็ทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ” เป็นวลีที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยปรัชญาอันลุ่มลึกผ่านมุมมองของศิลปิน สื่อถึงความไม่มีอะไรใหม่บนโลก ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับเราไม่เคยเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แม้ความรู้สึกภายในบางทีก็เป็นแค่การลอกเลียน เราต่างก็ทำทุกสิ่งซ้ำ ๆ วนเวียนไปมา เราคงจะไม่ได้ยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้เป็นครั้งแรก ดังเช่นสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอีกครั้งก็ไม่ใช่สงครามครั้งแรก มันแค่การทำซ้ำ แล้วเมื่อไหร่เราจะเลิกทำอะไรซ้ำ ๆ เสียที
ศิลปินยังสะท้อนถึง “ปรัชญาของวัฏจักรและความซ้ำซาก” (Philosophy of Cycles and Repetition) ว่าด้วยโลกและชีวิตดำเนินไปตามวัฏจักร เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเพียงรูปแบบหรือเวอร์ชันที่แตกต่างไปของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต พฤติกรรมของมนุษย์ ความสัมพันธ์ สังคม หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ มักจะมีรูปแบบที่ซ้ำ ๆ กันไปมา ภายใต้เปลือกนอกที่เปลี่ยนแปลงไป แก่นแท้ของสิ่งต่าง ๆ ยังคงเดิม
ในอีกแง่มุมหนึ่งวลีนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง “ปรัชญาธรรมชาติของมนุษย์” (Philosophy of Human Nature) ที่มองว่าธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเพียงใด ความต้องการพื้นฐานทั้งอารมณ์ ความปรารถนา ความกลัว และพฤติกรรมตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ของเรายังคงคล้ายเดิม เราอาจใช้เทคโนโลยีที่ต่างกัน แต่วิธีที่เราปฏิสัมพันธ์ แข่งขัน ร่วมมือ หรือแสวงหาความสุข อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นแค่สิ่งเดิม ๆ ที่คาดเดาได้ หากแม้เพียงเราจะยอมรับในความธรรมดาของชีวิต ที่นำพาเราไปสู่ความสงบหรือความพอใจในสิ่งที่ตนมี
————————————————————————————-
“Myanmar: The Years Before”
ศิลปิน: สมัชชา อภัยสุวรรณ

นิทรรศการภาพถ่ายหนึ่งเดียวที่ไม่ควรพลาดในงาน MAF 2025 ที่จะพาคุณเดินทางผ่านภาพถ่ายเพื่อไปสัมผัสกับเมียนมาร์ในห้วงเวลาที่ยังงดงามระหว่างปี 2017 – 2019 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่ศิลปินได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนเมียนมาร์ ก่อนที่แผ่นดินไหวจะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ทำให้สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธาและเสน่ห์ที่เก็บซ่อนไว้ในมุมเมือง พังทลายลงในชั่วพริบตา
เมียนมาร์ในความทรงจำ ก่อนถึงวันแห่งการเปลี่ยนแปลง นิทรรศการภาพถ่ายของ สมัชชา ศิลปินผู้มีความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านภาพถ่าย ที่ไม่ใช่แค่การบันทึกเหตุการณ์ หากแต่เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณของสถานที่และผู้คนได้อย่างลุ่มลึก ภาพถ่ายของเขานำพาผู้ชมไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อพบกับผู้คน มุมเมือง และเรื่องราวข้างหลังภาพ ผ่านมุมมองของศิลปินที่มีความหลงใหลในวัฒนธรรมที่แตกต่างและวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก
นิทรรศการ Myanmar: The Years Before จะพาคุณไปชมภาพภ่ายอันล้ำค่าที่บันทึกวิถีชีวิตเรียบง่าย ผู้คนที่รักการอ่าน และเอกลักษณ์ดั้งเดิมของเมียนมาร์ ผ่านมุมมองของศิลปิน “ผมชอบที่ชาวเมียนมาร์มีความขยัน มีความใฝ่รู้ รักการอ่าน มีคนอ่านหนังสือในทุก ๆ ที่ที่ไปเยือน บ้านเมืองยังคงอนุรักษ์ไว้ในสภาพเดิม ผมประทับใจหลาย ๆ อย่างในย่างกุ้ง และอยากให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของเมียนมาร์ ยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวคราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับอีกหนึ่งเมืองที่ผมตกหลุมรัก ผมจึงอยากจะช่วยเหลือพวกเขาเท่าที่จะพอช่วยได้ครับ”
ภายในบูทแบ่งเป็น 3 โซนคือ โซนนิทรรศการภาพถ่าย โซนจำหน่ายภาพถ่ายของศิลปิน และโซนจำหน่ายโปสการ์ด โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายภาพถ่ายและโปสการ์ด จะนำไปช่วยเหลือชาวพม่าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสถานการณ์สงคราม
————————————————————————————-
Juart Woraset
‘จ๊วต’ วรเศรษฐ์ นพอภิรักษ์กุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Juat Artist” ศิลปินไทยที่มีผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และสตรีทอาร์ต หนึ่งในนิทรรศการที่โดดเด่นของเขาคือ “One Moment of an Emotion” ศิลปินมีผลงานสตรีทอาร์ตปรากฏในพื้นที่สำคัญอย่างเยาวราช มีการนำเสนอผลงานและสื่อสารกับผู้คนผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แล้วยังเคยร่วมงานกับศิลปินในโปรเจกต์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงการผสมผสานศิลปะเข้ากับแฟชั่น นิทรรศการและกระบวนการทำงานของเขายังเคยถูกนำเสนอและพูดถึงอย่างกว้างขวาง เช่น การเสวนาภัณฑารักษ์เกี่ยวกับนิทรรศการ “EMOGINATION” ของเขา
————————————————————————————-
Artist House Bangkok
สถานที่เชิงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ‘บ้านศิลปิน’ ตั้งอยู่ริมคลองบางหลวงในย่านฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร เป็นบ้านไม้เก่าแก่แบบไทยโบราณที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งได้รับการอนุรักษ์และปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ แกลเลอรี และศูนย์รวมกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็นแหล่งเผยแพร่งานศิลปะไทยร่วมสมัยและเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์วิถีชีวิตริมคลองบางหลวง บรรยากาศโดยรอบบ้านศิลปินยังคงความเป็นชุมชนเก่าแก่ริมน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ในอดีต ภายในบ้านมีการจัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพวาด หน้ากาก และหุ่นละครเล็ก ทั้งยังเป็นที่รู้จักจากการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปงานศิลปะต่าง ๆ เช่น การวาดภาพ การเล่นดนตรีไทย และงานฝีมือ รวมถึงเคยมีการแสดงหุ่นละครเล็กที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
————————————————————————————-
Takorn Textile Studio
สตูดิโอและแบรนด์สิ่งทอที่ก่อตั้งโดย ‘คุณฐากร ถาวรโชติวงศ์’ อาจารย์ประจำภาควิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และผู้ก่อตั้ง Takorn Textile Studio สตูดิโอที่รับสร้างสรรค์งานสิ่งทออิสระ โดดเด่นในการสร้างสรรค์สิ่งทอที่มีโครงสร้างพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเข้ากับศิลปะไทยร่วมสมัย เพื่อยกระดับวงการสิ่งทอของไทยให้เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ ทั้งยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้วยการนำวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมสิ่งทอ เช่น ฝุ่นผ้า กลับมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าอย่าง ‘โคมไฟจากฝุ่นผ้า’ เป็นการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในการออกแบบได้อย่างลงตัว ทำให้ Takorn Textile Studio เป็นที่ยอมรับในเวทีสำคัญต่าง ๆ ด้านการออกแบบ แสดงให้เห็นถึงบทบาทในการขับเคลื่อนวงการออกแบบและนวัตกรรมสิ่งทอที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ของสตูดิโอมีทั้งสินค้าแฟชั่นและของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสั่งทำล่วงหน้า (pre-order)
————————————————————————————-
YABULAN
ยาบุลัญ แบรนด์แฟชั่นไทยที่โดดเด่นในการนำเสนอผ้าทอและสิ่งทอพื้นถิ่นภาคใต้ โดยเฉพาะลวดลายจาก “ว่าวบูรงนิบง” ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดยะลา มาผสมผสานกับการออกแบบแฟชั่นร่วมสมัย ก่อตั้งโดยคุณเอฟ – อนุธิดา กาญจนานุชิต ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นนำเสนอความงามของผ้าพื้นเมืองภาคใต้ในมุมมองใหม่ที่มีความทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้น YABULAN มีบทบาทในการส่งเสริมและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมผ่านแฟชั่น โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมและงานแฟชั่นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอผ้าไทยและวัฒนธรรมภาคใต้ ทำให้ YABULAN เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ไทยร่วมสมัย ที่เชื่อมโยงแฟชั่นเข้ากับคุณค่าของผ้าพื้นถิ่นและภูมิปัญญาไทยได้อย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ การเปิดตัวโซน “Art & Design Lane” ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Mango Art Festival ในการขับเคลื่อนวงการศิลปะของไทย ผ่านการเปิดพื้นที่ที่เชื่อมโยงศิลปิน นักออกแบบ แกลเลอรี นักสะสม และคนที่หลงใหลในงานศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ธีม “Connected Worlds” หรือ “โลกที่เชื่อมโยงถึงกัน” ซึ่งสะท้อนถึงการเชื่อมโยงผู้คน ความคิด และวัฒนธรรมผ่านงานศิลปะในทุกมิติ
ผู้สนใจสามารถเข้าชมโซน Art & Design Lane ภายในงาน Mango Art Festival 2025 บนชั้น 2 ของ River City Bangkok ระหว่างวันที่ 7 – 11 พฤษภาคม 2568 เข้าชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงลงทะเบียนหน้างาน พร้อมอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของงานได้ที่ https://www.facebook.com/MangoArtFestival และ IG: mangoartfestival