สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เขาจะเดินทางไปยังเมืองอิสตันบูลของตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. นี้ เพื่อรอพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “แบบตัวต่อตัว” ตามที่รัฐบาลมอสโกเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอ


อย่างไรก็ตาม นายอันเดร เยอร์มัค ที่ปรึกษาของเซเลนสกี กล่าวก่อนหน้านั้นว่า ยูเครนจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาและการพบหารือ “แบบตัวต่อตัว” เมื่อรัสเซียยอมรับการเรียกร้องหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.


ทั้งนี้ทั้งนั้น การประกาศดังกล่าวของผู้นำยูเครน เกิดขึ้นไม่นาน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน แต่กลับต้องการพบหน้าแทนที่ตุรกี เพื่อหารือยุติการนองเลือด ซึ่งยูเครนควรรับข้อเสนอนั้น อย่างน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่า แนวทางนับจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป


อนึ่ง ปูติน แถลงที่ทำเนียบเครมลิน เสนอการเจรจาแบบพบหน้าตัวต่อตัวกับยูเครน ที่เมืองอิสตันบูลของตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการคลี่คลายความขัดแย้งในสงคราม ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี โดยรัสเซียจะเป็นผู้ประสานงานกับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ให้จัดเตรียมสถานที่ และย้ำว่า หากการเจรจาเกิดขึ้นจริง “ทั้งสองฝ่ายต้องปราศจากเงื่อนไข”

หากการพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ที่รัสเซียและยูเครนเจรจาร่วมกัน ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามเริ่มต้นได้ไม่นาน แม้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดร่วมกันได้ก็ตาม.

เครดิตภาพ : AFP