เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8,พล.ต.ต.ศรัญู ชํานาญราช รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล รอง ผบช.ภ.8,พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ,พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ,พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ,พ.ต.อ.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี,พ.ต.อ.อภิชาต จันทร์สําเร็จ ผกก.สภ.เกาะพะงัน

สั่งการให้ พ.ต.ท.เจริญชัย บุญเกลี้ยง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกําลังหน่วยปฏิบัติการ พิเศษกองกํากับการสืบสวนตํารวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ( ชุด ปะ ฉะ ดะ ) บูรณาการร่วมเจ้าหน้าที่ตํารวจท่องเที่ยว ทท.7 กก.2 บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรเกาะพะงัน ฝ่ายปกครองอําเภอเกาะพะงัน ร่วมกันสืบสวนจับกุมขบวนการเป็ดเช่ารถจักรยานยนต์ของชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่า ได้รับการเอาเปรียบในราคาเช่ารถและค่าซ่อมรถในราคาที่สูงกว่าปกติ จึงได้ร่วมกันสืบสวน

จึงสนธิกำลังเข้ากันจับกุมนายพาเวล สัญชาติอิสราเอล ได้มาเช่าบ้านไม่มี เลขที่ หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ทําการในการเปิดให้บริการรถเช่าดังกล่าว พร้อมตรวจยึดของกลาง รถจักรยานยนต์ 15 คัน หมวกกันน็อก 15 ใบ กุญแจรถจักรยานยนต์สํารอง 109 ดอก สมุดเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ 51 เล่ม สัญญาเช่าซื้อ 386 สัญญา ไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้น ให้การว่า ได้ประกอบธุรกิจ ซื้อ-เช่า อสังหาริมทรัพย์ ตําแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยมีใบอนุญาตทํางาน ในตําแหน่ง งานผู้จัดการทั่วไป ตามใบอนุญาตทํางาน และได้เดินทางมาเปิดบริการรถเช่าในพื้นที่เกาะพะงัน โดยดําเนินการผ่านเว็บไซต์ www.SHLEVICH.COM ในการติดต่อกับลูกค้า โดยมีรถจักรยานยนต์ให้บริการเช่าทั้งหมด 90 คัน และให้ลูกค้าชาวต่างชาติเช่าไป เหลือที่ถูกจับกุม 15 คัน วิธีการได้รถมาในการทําธุรกิจ ได้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ ทางเฟซบุ๊ก ในราคาถูกจาก ชาวอิสราเอลด้วยกัน และ จากชาวไทย โดยได้ตรวจยึด โดยมียอดเงินหมุนเวียนในการทําธุรกิจ ผลกําไรในปีที่ผ่านมา ประมาณ 3 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมฯ ได้จับกุมตัว แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจ ( รถเช่า ) โดยไม่ได้รับอนุญาต ,เป็นบุคคลต่างด้าวทํางานนอกเหนือสิทธิที่จะทําได้” พร้อมตรวจยึดของกลาง และนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป