เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมหนึ่งในพยานในคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่มีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมด้วย โดยพยานคนดังกล่าว กล่าวว่า วันนี้ตนมาให้ปากคำถึงเส้นทางการเงินในคดีนี้ ซึ่งเป็นเส้นทางเงินสดที่ไม่มีใครกล้าออกมายอมรับ ตนเป็นหนึ่งในนั้น จึงอยากให้หลายๆ คนออกมาพูด และยอมรับเพื่อให้บ้านเมืองได้พัฒนาไปข้างหน้า เพราะที่ของ สว. คือสภาของผู้ทรงเกียรติ แต่ถ้าเรามีที่มาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น ตนคิดว่าความสง่างามก็จะไม่เกิด ซึ่งเส้นทางการเงินที่ว่านี้คือเป็นการมอบให้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 20,000 บาท ใส่ซองให้ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการให้ไปกา เพื่อจะฮั้วคะแนนกัน แต่ตนมีความไม่สบายใจจึงกลับตัวกลับใจไม่ให้ความร่วมมือ จึงจะเห็นได้ว่าคนที่มีคะแนนเป็นของตัวเอง คือคนที่ไม่ให้ความร่วมมือในกระบวนการฮั้ว ส่วนคนที่มีคะแนนเป็นศูนย์ นั่นคือคนที่ให้ความร่วมมือ เพราะกระบวนการฮั้ว คือไม่ให้กาให้ตัวเอง เพราะระบบที่เขาเซตไว้เป็นการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพราะถ้ากาตัวเอง ข้อมูลจะมีการคลาดเคลื่อน ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ 140-170 คน แล้วเขาจะบอกว่าคะแนนของเราจะมาจากกลุ่มอาชีพอื่น และจังหวัดอื่น ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนมีโอกาสได้เป็น สว. หรือถ้าไม่ได้ ก็จะได้เป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญการ หรือผู้ช่วย หรือทุกคนมีตำแหน่งแน่นอน

พยานคนเดิม กล่าวอีกว่า ตนไม่รู้จักกับคนที่มาติดต่อให้ร่วมกระบวนการ เพียงแต่ว่าตนได้รับการชักชวนให้เข้าสู่กระบวนการนี้เพียงแค่ว่าให้ไปรวมกลุ่มกัน แล้วเขาจะช่วยในเรื่องของคะแนน เพราะเขาว่าเขามีเครือข่ายอยู่แล้ว ส่วนบรรยากาศของการเข้ารวมกลุ่มที่โรงแรมมีคนจำนวนมาก และมีการย้ายโรงแรมไปอีกที่หนึ่งเพื่อไปกาโพย และก็ย้ายไปนอนพักอีกโรงแรมหนึ่ง ส่วนเรื่องซองเงินนั้นเป็นการวางไว้ที่โต๊ะแล้วให้พวกเราหยิบกันเอง แล้วบอกว่าเป็นค่าเดินทาง ส่วนตนเองเก็บเงินนี้ไว้เป็นเวลาสามเดือน ไม่ได้ใช้เลยพร้อมใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐาน จนทางดีเอสไอได้ดึงข้อมูลจากโทรศัพท์ของตนเองไป พอเจอรูปเงินจึงได้เรียกตนมาสอบปากคำ

เมื่อถามว่าในห้องที่โรงแรม เห็นนักการเมืองอยู่ด้วยหรือไม่ พยาน กล่าวว่า ไม่เห็น มีแต่ผู้สมัคร สว. ด้วยกัน

เมื่อถามว่าวันนั้นในห้อง เห็นคนที่ได้เป็น สว. หรือไม่ พยาน กล่าวว่า เห็น และจะมีคะแนนโดดมาเลย ได้อันดับหนึ่งทั้ง 3 คน และคนเหล่านี้ ก็ได้ซองเงินเช่นเดียวกัน คนละ 20,000 บาท แต่จะมากกว่านี้ในขั้นตอนต่อไปตนไม่ทราบเพราะตนไปไม่ถึง แต่วันที่ให้ไปกาโพยที่โรงแรม เขาทำช่องว่างไว้ 20 ช่องตามกลุ่มอาชีพ แล้วบังคับให้เราใส่หมายเลขในช่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พยานที่เข้าให้ปากคำคดีดังกล่าวในวันนี้มีจำนวน 3 คน และใช้เวลาสอบนานกว่า 6 ชั่วโมง