สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวในการประชุมจีน-ประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (เซแล็ก) ครั้งที่ 4 ว่าการกลั่นแกล้งและการใช้อำนาจครอบงำ จะนำไปสู่การแยกตัวเองเท่านั้น โดยไม่ระบุถึงสหรัฐ พร้อมกับให้คำมั่นมอบสินเชื่อเพื่อการพัฒนา มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น


ลาตินอเมริกา กลายเป็นสมรภูมิสำคัญในการเผชิญหน้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับจีน และภูมิภาคนี้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากรัฐบาลวอชิงตัน ให้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ประเทศลาตินอเมริกาสัดส่วน 2 ใน 3 ลงนามในแผนโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของรัฐบาลปักกิ่ง และจีนแซงหน้าสหรัฐ ขึ้นเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิล เปรู ชิลี และประเทศอื่น ๆ แล้ว
China threw thinly-veiled swipes at the United States and cast itself as the defender of the multilateral order Tuesday at a summit attended by delegates from the Caribbean and Latin America, with which Beijing is seeking to deepen ties.https://t.co/TECzzLKFOL
— AFP News Agency (@AFP) May 13, 2025
เพียงหนึ่งวันหลังรัฐบาลวอชิงตัน และรัฐบาลปักกิ่ง ประกาศลดกำแพงภาษีกันและกัน เป็นเวลา 90 วัน เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสงครามการค้าที่ดำเนินอยู่ สีก็กล่าวยกย่องรัฐบาลปักกิ่งในฐานะ “ผู้ปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพ”
ทั้งนี้ สีให้คำมั่นในการประชุมว่า จีนจะปล่อยเงินกู้เพื่อการพัฒนา มูลค่า 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 306,500 ล้านบาท) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดแผนริเริ่มในวงกว้างที่มุ่งเป้ากระชับความร่วมมือ รวมถึงด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาด อีกทั้งรัฐบาลปักกิ่งจะให้ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย และปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนเพิ่มการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ เช่น ทุนการศึกษา และโครงการฝึกอบรม
ขณะที่ นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศของจีน ประณาม “ประเทศมหาอำนาจ” ที่หลงใหลในความคิดที่ว่า “อำนาจคือความถูกต้อง” และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ในลาตินอเมริกา “ร่วมมือกับจีน” เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง จากประเทศหนึ่งที่ใช้ภาษีเป็นอาวุธเพื่อรังแกประเทศอื่น.
เครดิตภาพ : AFP