เมื่อวันที่ 17 พ.ค.กลายเป็นข่าวอื้อฉาวที่สร้างความตกตะลึงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม กรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวงชื่อดัง ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการยักยอกเงินของวัด เป็นจำนวนเงินกว่า 300 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์ยักย้ายเงินดังกล่าวเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนจะโอนต่อไปให้กับสีกา ซึ่งเป็นนายหน้าเว็บพนันออนไลน์

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำบุคคลใกล้ชิดเพิ่มเติม เพื่อขยายผลและรวบรวมข้อเท็จจริงในคดีนี้ให้รอบด้านมากยิ่งขึ้น โดยในวันพรุ่งนี้ (17 พฤษภาคม) ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวอดีตเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว และสีกาผู้เกี่ยวข้อง ไปทำการฝากขังต่อศาล

คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นถึงพระชั้นผู้ใหญ่ มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะใหญ่ และเจ้าคุณชั้นธรรม ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์และประชาชนจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวจึงสร้างความผิดหวังและเสียศรัทธาให้กับพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง

ด้าน อ.เบียร์ ฅนตื่นธรรม” นักพูดและผู้เผยแผ่ธรรมะชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หลังจากมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงว่า “จะโกรธอะไรขนาดนั้น”

โดย อ.เบียร์ ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเดือดดาลว่า ก็มันน่าโกรธ! ระดับเจ้าคณะใหญ่ขนาดนั้น เจ้าคุณชั้นธรรม ไม่ใช่ได้กันง่ายๆ แล้วเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เจ้าอาวาสวัดใหญ่ขนาดนั้น จะไม่ให้โกรธได้ยังไง มันเรื่องใหญ่ มันทำลายศาสนา มันชั่วเกินไป เอาเงินวัดไปเล่นการพนันมันทุเรศทุรัง แบบนี้เรียกว่ามารศาสนา!”

อ.เบียร์ กล่าวด้วยความสลดสังเวชว่า ตนรู้สึกว่ายังมีพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้อีกจำนวนมาก ไม่ได้มีเพียงกรณีนี้เท่านั้น “นี่คือวัดแรก เป็นแนวเป็นแถวเป็นทาง ก็ดีเหมือนกัน ล้างบางกันหน่อย พระไม่ดี พระชั่วๆ พระเลวๆ พรรค์นี้ กระชากออกไปหน่อย ศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรืองขึ้น”

อ.เบียร์ ยังกล่าวเน้นย้ำว่า ศาสนาจะอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะยศ เพราะตำแหน่ง ไม่ใช่เพราะว่าเงินทองมาก แต่จะอยู่ได้เพราะธรรมวินัย ต้องออกมาขวนขวายในการบอกสอนธรรมะ ไม่ใช่เอาเวลาไปนั่งหาทรัพย์ หาเงินหาทอง”

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งสังคมต่างจับตาดูผลการสอบสวนและบทลงโทษที่จะเกิดขึ้นกับอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้อย่างใกล้ชิด

ขอบคุณเพจโหนกระแส