เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.68 เวลาประมาณ 02.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณแยกกลางหมู่บ้านหนองกุง หมู่ 3 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร ทราบชื่อต่อมา คือ นายชินวุฒิ อายุ 15 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณลำตัว และ นายธนภัทร อายุ 18 ปี ทั้งสองเป็นชาว ต.ฮางโฮง อ.เมืองสกลนคร ถูกยิงเข้าบริเวณต้นแขน โดยเพื่อนๆ ช่วยนำตัววัยรุ่นทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาลศูนย์สกลนครไปก่อนหน้านี้ แต่นายชินวุฒิ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกำลังตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุพบพยานที่เห็นเหตุการณ์ สอบสวนทราบว่าเป็นการทะเลาะกันของกลุ่มวัยรุ่นบ้านพังขว้าง อ.เมืองสกลนคร กับกลุ่มวัยรุ่นบ้านหนองกุง ต.ฮางโฮง อ.เมืองสกลนคร เนื่องจากมีการท้าทายกันผ่านทางสื่อโซเชียล Facebook และนัดเจอกันที่แยกกลางหมู่บ้านหนองกุง โดยกลุ่มวัยรุ่นบ้านพังขว้าง รวมตัวกันประมาณ 10 คนขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาเจอกับกลุ่มวัยรุ่นบ้านหนองกุง ที่นัดกันไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ
เมื่อทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน กลุ่มวัยรุ่นบ้านพังขว้างได้เปิดฉากยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นบ้านหนองกุง ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน และได้หลบหนีไป จากนั้นเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บได้นำตัววัยรุ่นทั้ง 2 คน นำส่งโรงพยาบาลศูนย์สกลนครเพื่อทำการรักษาดังกล่าว

จากการสืบจนทราบข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุคือกลุ่มของนายก้องภพ อายุ 22 ปี ชาว ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มวัยรุ่นบ้านพังขว้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปควบคุมตัวนายก้องภพ ได้ที่บ้านพัก เมื่อสอบถามเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนครั้งนี้ด้วยตนเอง
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายก้องภพ หรือก้อง พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 กระบอก เครื่องกระสุน 1 นัด ก่อนนำตัวนายก้องภพ พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร สอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้ร่วมกระทำผิด และติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.อภิรักษ์ ศรีหารักษา ผกก.สภ.เมืองสกลนคร กล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตามจับกุมตัวการร่วมลงมือก่อเหตุพร้อมกับนายก้องภพ ได้อีก 1 ราย ชื่อนายโบ๊ท ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ และมีเจ้าของรถอีก 1 ราย ซึ่งเป็นตัวการร่วม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร จะดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองกลุ่ม ในข้อหาเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้กันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยทำให้ผู้ที่เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ถึงแก่ความตายในการชุลมุนต่อสู้นั้น และหลังจากนี้จะมีการดำเนินการในการที่จะป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป
