นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เตรียมเดินหน้าก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง วงเงิน 1,000 ล้านบาท ระยะทางรวม 4.4 กม. โดยมีจำนวนกระเช้า 32 ตู้ บรรจุได้ 8 คนต่อตู้ โดยจะเริ่มออกแบบภายในเดือน พ.ค. 68 คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 30 เดือน หรือ 2 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันเริ่มศึกษาออกแบบในเดือน พ.ค. 68 และพร้อมเปิดให้บริการช่วง พ.ย. 70 ขณะนี้ อพท. ได้วางกรอบการดําเนินงานไว้อย่างรอบคอบ ทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้กฎหมายและกลไกการกลั่นกรองที่ชัดเจน

“อาชีพลูกหาบยังอยู่ แต่เปลี่ยนจากเดินขึ้นเขาในแนวดิ่ง เป็นหาบในที่ราบแทน เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่ามีลูกหาบที่ป่วยติดเตียง กระดูกผิดรูป และลูกหลานก็ไม่ได้อยากทำอาชีพนี้ต่อ” นายสรวงศ์ กล่าว

ส่วนการจัดเก็บค่าขึ้นกระเช้า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสม พร้อมดูโมเดลในหลายแห่งประกอบด้วย แต่ยืนยันว่าจะทำให้ราคาที่นักท่องเที่ยวทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเอื้อมถึงได้
สำหรับโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึงนี้ เป็นหนึ่งในนโยบายสําคัญของรัฐบาล ภายใต้แนวทางการท่องเที่ยวที่เน้นการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และการออกแบบกระเช้าไฟฟ้า ไม่ได้คํานึงเพียงแค่การอํานวยความสะดวก หากแต่เป็นเครื่องมือของการอนุรักษ์ที่จะลดการเดินเท้าในเขตเปราะบาง ลดการพักแรมบนภู ลดขยะ ลดภาระของเจ้าหน้าที่ และลดความเสี่ยงต่อระบบนิเวศ เป็นการเข้าถึงโดยไม่สัมผัสโดยตรง อนุรักษ์ภูกระดึงด้วยเทคโนโลยีที่เคารพธรรมชาติ

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท. ได้รับงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 25.4 ล้านบาท ในการทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเข้มข้น และดําเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายหรือกฎระเบียบทุกประการ ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม กายภาพ สังคม สุขภาพ และชุมชน พร้อมทั้งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นอย่างโปร่งใสและมีส่วนร่วม ออกแบบโดยไม่รบกวนธรรมชาติ โดยยึดแนวคิด Minimum Intervention ซึ่งสถานีและเส้นทางกระเช้า ถูกเลือกให้กระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด และเมื่อกระเช้าพร้อมใช้งาน แนวโน้มการพักแรมบนยอดภูจะลดลง ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศในระยะยาว รวมถึงปริมาณขยะตกค้างที่มีแนวโน้มลดลงด้วย
“นับถอยหลังไป 3-4 ปี มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปภูกระดึง 6.5 หมื่นคนต่อปี เป็นคนหนุ่มสาวที่ขึ้นไหว เพราะเส้นทางมีความทุลักทุเลพอสมควร ซึ่งภูกระดึงสามารถรองรับนักท่องเที่ยวเต็มที่ได้ 5,000 คนต่อวัน แต่จะพยายามบริหารจัดการไม่ให้ถึงจำนวนสูงสุดที่รองรับได้เพื่อป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม”